กระดานสุขภาพ

มีตุ่มที่อวัยวะเพศ1ปี2เดือน แต่ไม่เคยขึ้นมาอีกเลย แต่มีอาการ
Anonymous

31 ธันวาคม 2558 04:57:44 #1

สอบถามคุณหมอหน่อยครับ ผมเคยมาตั้งกระทู้แล้ว เมื่อเดือนตุลาคม 2014 ว่ามีตุ่มที่อวัยวะเพศตอนนั้น คุณหมอยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นโรคอะไร แต่ดูเหมือนเริม ตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้ ผมไม่มีตุ่มขึ้นอีกเลย (ประวัฒิเพศสัมพันธ์คือ ก่อนหน้าที่แผลขึ้น 5 เดือนเคยไปนวดที่อวัยวะเพศมา อาจมีสัมผัสกันนิดหน่อย ก่อนหน้านั้น 1ปี5เดือนเคยมีเพศสัมพัน แต่ใส่ถุงยางครับ)

แต่บางทีมันมีอาการเสียวๆที่ท่อปัสสาวะบ้าง 3-4 เดือนครั้ง ครั้งละ2-3วัน แต่ล่าสุดครั้งนี้เป็นมา 1 อาทิดแล้ว ยังเสียวๆท่อปัสสาวะอยู่ แถมมีอาการชาตรงขาบ้างง และปวดอัณฑะร่วมด้วย ผมได้ไปหาหมอทางเดินปัสสาวะตรวจไม่พบเชื้อ แถมหมอยังบอกว่าอัณฑะปรกติ แต่ผมปวดอะครับ ผมควรกินยาอะไซโคเวียกันไหมครับบ ผมปวดมาก ขอบคุณครับ

 

http://haamor.com/media/images/webboardpics/k11-16832.JPG

http://haamor.com/media/images/webboardpics/k11-16832-2.JPG

http://haamor.com/media/images/webboardpics/k11-16832-3.JPG

อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 63 กก. ส่วนสูง: 172ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.30 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

3 มกราคม 2559 09:28:13 #2

เรื่องเจ็บหรือหน่วงที่ลูกอัณฑะ ในถุงอัณฑะ จะประกอบด้วยลูกอัณฑะ ที่บริเวณส่วนหัวจะมีส่วนที่ทำหน้าที่สร้างน้ำเชื้อ ท่อส่งน้ำเชื้อ เส้นเลือด เส้นประสาทอยู่รวมกัน เรียว่า spermatic cord ซึ่งสามารถคลำได้เป็นเส้นหรือเป็นก้อนเล็กๆ มีความยืดหยุ่ม และเนื่องจากเส้นนี้อยู่ติดเข้าไปในช่องท้อง ถ้ามีการดึงรั้ง อาจทำให้เสียวถึงในช่องท้องได้ ถ้ามีการติดเชื้อหรืออักเสบเช่นจากโรคหนองใน ก็จะบวมใหญ่ขึ้น และมีอาการเจ็บปวดมาก ในกรณีของคุณ ถ้าก่อนเป็นมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธุ์ เช่น เที่ยวผู้หญิง ไม่ใช้ถุงยาง หรือมีคู่นอนหลายคน ก็อาจเป็นอัณฑะอักเสจากหนองในหรือหนองในเทียม ซึ่งต้องรักษาโดยการฉีดยา ceftriaxone ครั้งละ 500 มิลลิกรัม ติดต่อกัน 3-5 วัน ตามด้วยยากินแก้อักเสบ เช่น ciprofloxacin ครั้งละ 500 มิลิกรัม วันละ 2 ครั้ง อีกประมาณ 2 อาทิตย์ แต่คุณได้ไปตรวจกับหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะแล้ว ไม่พบเชื้อ ก็น่าจะไม่ใช่เกิดจากโรคติดเชื้อ ไม่ต้องกังวล ส่วนเรื่องตุ่มที่เคยเป็น ถ้าไม่เป็นอีกก็ไม่น่าจะเป็นเริม ดูจากรูปที่ส่งมา คล้ายกับม่ตุ่มใสและมีบางคุ่มที่แห้งและมีสีดำ ถ้าก่อนเป็นมีอาการปวดเสียว และต่มมีการลามไปที่อื่น เช่น บริเวณสะโพก หรือลูกอัณฑะ ก็อาจจะเป็นอาการของงูสวัดซึ่งจะพบได้ในคนที่มีภูมิต้านทานผิดปกติ แนะนำตรวจเลือดเอดส์โดยใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจ

Anonymous

3 มกราคม 2559 10:39:02 #3

ผมไม่เคยมีประวัติเสี่ยงอีกเลยครับ ตอนนี้ที่ท่อปัสสาวะไม่ค่อยเสียวแล้ว แต่ยังปวดอัณฑะค่อนข้างมาก ผมควรทำอย่างไรดีครับ หมอทางเดินปัสสาวะนัดตัวตั้งวันศุกร์หน้า ผมคงทนรอไม่ไหว มียาอะไรแก้ปวดแนะนำไหมครับ

Anonymous

3 มกราคม 2559 10:40:06 #4

ผมไม่เคยมีประวัติเสี่ยงอีกเลย รวมถึงไม่มีตุ่มลามไปที่อื่นด้วย ผมตรวจเอดส์กับซิฟิลิสแล้ว ไม่พบเชื้อครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

1 กุมภาพันธ์ 2559 13:56:31 #5

ถ้าไม่มีประวัติเสี่ยงมาเป็นปี ตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิส ผลปกติ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อทั้งสองโรค ส่วนอาการปวดที่บริเวณลูกอัณฑะ คงต้องรอพบแพทย์ตามที่คุณได้นัดไว้แล้ว ในกรณีที่ปวดมาก ก็สามารถกินยาแก้ปวด เช่นพาราเซตามอล ครั้งละ 500 มิลลิกรัม ทุก 4-6 ชม.