กระดานสุขภาพ

ก้อนเนื้อแข็งๆบริเวณเหนือหัวหน่าวข้างซ้าย กดเจ็บ
Flif*****w

15 ธันวาคม 2558 06:17:20 #1

คุณหมอครับ ผมมีก้อนเนื้อแข็งขึ้นบริเวณเหนือหัวหน่าวข้างซ้าย หรือ บริเวณ ง่ามขาข้างซ้ายใกล้ๆหัวหน่าวครับ มีอาการ ปวดบวม กดเจ็บ ไม่มีหัวครับ แต่จากนั้นผ่านมาประมาณ 2 วัน บริเวณหนังอวัยวะเพศของผมโดยเฉพาะหนังสาวนปลาย ก็ปวดบวม แดงเล็กน้อย แต่ตรงส่วนหนังอวัยวะเพศไม่เจ็บเท่าไหร่ครับ เจ็บเท่าไหร่ คือ ผมอยากจะขอคำปรึกษาจากคุณหน่อยครับ ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และอาการที่ผมเป็นอยู่คือโรคอะไรครับ รบกวนคุณหมอให้คำแนะนำวิธีการรักษาและวิธีป้องกันครับ ผมขออนุญาติเอารูปให้ดูนะครับ *รูปอาจจะดูไม่สุภาพนะครับ ขออภัยคุณหมอล่วงหน้าด้วยนะครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/flifw-26134-1.jpeg

อายุ: 19 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 95 กก. ส่วนสูง: 176ซม. ดัชนีมวลกาย : 30.67 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Flif*****w

15 ธันวาคม 2558 06:25:20 #2

Flif*****w

15 ธันวาคม 2558 06:27:02 #3

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

23 ธันวาคม 2558 15:38:39 #4

ดูจากรูปที่ส่งมา หนังหุ้มอวัยวะเพศบวม และหนังหุ้มปลายยาว รูดเปิดได้ไม่สุดและรัดเวลาอวัยวะเพศแข็งตัว สาเหตุที่หนังหุ้มบวมเนื่องจากคุณได้รูดเปิดแล้วทิ้งไว้โดยไม่ได้รูดปิดเหมือนเดิม ทำให้หนังหุ้มรัด ส่งผลให้ส่วนปลายของหนังหุ้มบวม แนะนำให้รูดหนังหุ้มให้ปิดคลุมส่วนหัวไว้ ถ้าทำได้ ก็จะยุบหายบวมใน 2-3 วัน แต่ถ้าทำไม่ได้ ให้รีบหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะ อาจจะต้องผ่าเพื่อไม่ให้รัดมากขึ้น เพราะอาจจะขาดเลือดไปเลี้ยงและเกิดการเน่าได้ ส่วนเรื่องก้อน ดูจากรูป ไม่ชัด บอกไม่ได้ว่ามีลักษณะอย่างไร ตำแหน่งที่คุณพบก้อนและมีอาการเจ็บ อาจจะเป็นต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณขาหนีบเกิดการอักเสบ แสดงว่าอาจจะมีการติดเชื้อบริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งในกรณีของคุณมีอาการบวมที่หนังหุ้มด้วย ถ้าคุณมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ก่อนเป็น เที่ยวผู้หญิงหรือมีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยางอนามัย ก็มีโอกาสเป็นโรคติดต่อ

โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง หรืออาจจะเป็นแผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง เกิดหลังมีความเสี่ยง 10- 90 วัน แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ มีต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตได้ แต่จะไม่ค่อยเจ็บ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคนี้พบบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (เกย์) แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยง เช่น ไม่เคยร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ อาจจะเกิดจากการอักเสบทั่วๆไป หรือการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ สรุป ขึ้นกับพฤติกรรมทางเพศและลักษณะที่เป็น แนะนำหาหมอครับ