ผมไม่ใช่หมอนะฮะ แต่แนะนำไปอ่านสองบทความนี้ครับ

เอชไอวี: โรคติดเชื้อเอชไอวี (HIV: HIV infection)
http://haamor.com/th/เอชไอวี/

เอดส์ (AIDS)
http://haamor.com/th/เอดส์/

เอดส์ มาจากภาษาอังกฤษ AIDS ซึ่งย่อมาจาก Acquired Immune Deficiency Syndrome แปลว่ากลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง พบครั้งแรกที่ประเทศอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2523 โดยในระยะแรกยังไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาจึงพบว่าเกิดจากเชื้อไวรัส HIV ซึ่งย่อมาจาก Human Immunodeficiency Virus อาการของการติดเชื้อเอชไอวี ขออธิบายดังนี้ 1. การติดเชื้อระยะเฉียบพลัน เกิดขึ้นใน 2-4 อาทิตย์หลังจากที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งอาการจะค่อยดีขึ้นใน 1-4 อาทิตย์ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ค่อยเฉพาะเจาะจงทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว อาจนึกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ 2. ระยะที่ไม่มีอาการจะเป็นระยะต่อจากระยะเฉียบพลัน ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร ระยะนี้จะอยู่ระหว่าง 3-5 ปี แต่ในบางรายอาจนานเป็น 10 ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพของร่างกายและปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด 3. ระยะที่เป็นโรคเอดส์ ผู้ป่วยเริ่มจะมีภูมต้านทานลดลงจากการทำลายของเขื้อไวรัส น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง มีผื่นคันตามตัว เป็นเชื้อราที่ลิ้น ต่อมาเริ่มมีโรคแทรก เช่น งูสวัด วัณโรคปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น โดยสรุป การติดเชื้อเอชไอวี ถ้ามีการดูแลร่างกาย รวมทั้งมีการกินยาต้านไวรัส ก็ทำให้ภูมิคุ้มกันเป็นปกติ ก็อาจจะไม่เป็นโรคเอดส์ เพียงแต่มีเชื้ออยู่ในเลือดซึ่งเรียกว่าผู้ติดเชิ้อ แต่เมื่อไรที่ภูมิคุ้มกันลดลง มีการป่วยด้วยโรคต่างๆ ก็เรียกว่าผู้ป่วยโรคเอดส์