กระดานสุขภาพ

เป็นเริมรึเปล่าครับ. อวัยวะเพศชาย
Anonymous

18 พฤศจิกายน 2558 14:12:00 #1

ผมมีอาการคันบริเวณโคน อวัยวะเพศ ช่วงวัน 1-2 วันแรก จะเป็นผื่นแดงเล็กๆ และ 3-4 วันหลังมาเริ่มคันมาก จึงไปซื้อยามาทาครับ ยา Bethasone-N cream ประมาณเย็น วันที่ 5 ครับผมสังเกตว่าผิวหนังบริเวณที่ทายา สีเปลี่ยนเป็นคคล้ำกว่าบริเวณอื่น และมันลอกได้ จึงไดัทำการลอกออกมาคล้ายๆ หนังกำพร้าที่ตายเเล้ว อยากถามคุณหมอครับว่า ที่เป็นอยู่ คืออะไร เป็นเริมรึเปล่าครับ 

อายุ: 19 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 49 กก. ส่วนสูง: 161ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.90 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

29 พฤศจิกายน 2558 03:50:36 #2

อาการคันและเป็นตุ่มท่โคนอวัยวะเพศ สาเหตุ 1. การแพ้หรือการรคายเคืองต่อสารที่ใช้ ทำให้คันและเกาจนเป็นตุ่ม 2ใ การอักเสบ เช่น ต่อมขนใต้ผิวหนังอักเสบ เป็นตุ่มหนองคล้ายกับการเป็นสิว 3. เชื้อรา เกิดจากความอับชื้น เป็นตุ่มหรือเป็นผื่นแดงๆ 4. ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็อาจเป็นโรคติดต่อที่พบบ่อยคือเริม เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 3-7 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง 5. โรคผิวหนังอื่นๆ โดยสรุป ขึ้นกับลักษณะของตุ่มที่เป็นและพฤติกรรมทางเพศ การรักษาขึ้นกับสาเหตุ แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นมาให้ดูเพิ่มเติมและให้ข้อมูลทางเพศสัมพันธ์มาด้งย