กระดานสุขภาพ

ทานยาคุมไม่ตรงเวลาทุกวัน มีผลกับการประสิทธิภาพการคุมกำเนิดมั้ยค่ะ
Nole*****e

16 พฤศจิกายน 2558 08:42:31 #1

เพิ่งเริ่มทานยาคุมของมินิดอซแบบ 24+4 แผงแรกเมื่อ 23 ก.ย.58 ตรงกับวันแรกที่มีประจำเดือนค่ะ มีบ้างที่ลืมทานยาแต่วันรุ่งขึ้นก็รีบทาน แต่ปกติทานยาไม่เคยตรงเวลาซักเท่าไหร่ค่ะ หลังจากทานยาจนถึงเม็ดหลอกที่ 2 ก็เหมือนประจำเดือนจะมา เแต่มาแบบน้อยมากๆ แค่เลอะแผ่นอนามัยค่ะ ส่วนกลางคืนไม่ต้องพูดถึง ไม่มีให้เห็นเลยค่ะ เป็นอย่างนี้อยู่ 2 วัน แต่ก็ยังทานยาตามปกติและก็เริ่มยาแผงที่ 2 ต่อ จนตอนนี้ทานยาเม็ดหลอกไป 2 เม็ด ของแผงที่ 2 แล้วค่ะ  แต่ประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ มีโอกาสท้องมั้ยคะ  แล้วการทานยาไม่ตรงเวลาในแต่ละวันมีผลรึเปล่าคะ

อายุ: 35 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 87 กก. ส่วนสูง: 155ซม. ดัชนีมวลกาย : 36.21 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

28 พฤศจิกายน 2558 04:50:39 #2

เรียน คุณ nole,

ขอแยกตอบเป็น 2 ประเด็น นะครับ

1. การรับประทานยาไม่ตรงเวลา จะทำให้เสี่ยงต่อการลืมรับประทานยา หรือทำให้ระดับยาในเลือดไม่สม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้เยื่อบุผนังมดลูกอาจฉีกขาดก่อนกำหนด เกิดภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอย แต่หากไม่เคยลืมรับประทานยาเกินกว่า 2 วัน ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกันโดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร จนเกิดปฏิกิริยาระหว่างกัน "ยาตีกัน" จนเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือ เสี่ยงต่อความพิการหรือเสียชีวิตได้ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์นะครับ เนื่องจากการรับประทานยาที่ถูกต้อง สม่ำเสมอ โอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์จะน้อยมากนะครับ คือ น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์

2. ตัวยาคุมกำเนิด M.... ที่คุณสอบถามมานั้น มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนค่อนข้างต่ำ ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับคุณก็ได้ โดยที่ตัวยานี้จะเหมาะกับผู้ที่มีปริมาณเอสโตรเจนค่อนข้างสูง สังเกตได้จากรูปร่่างอกเอวชัดเจน ผิวค่อนข้างแห้ง รูขุมขนค่อนข้างเล็ก ประจำเดือนมาค่อนข้างมาก (หลายแผ่นต่อวัน) หรือมาหลายวัน (5-7 วัน) แต่หากมีลักษณะที่เข้ากับฮอร์โมนโปรเจสตินสูง รูปร่างค่อนข้างสูงใหญ่ อกเอวไม่ค่อยชัดเจน ประจำเดือนมาปริมาณน้อย หรือน้อยวัน ผิวค่อนข้างมัน เป็นสิวง่าย ขนดก รูขุมขนกว้าง ถ้าเป็นแบบนี้ควรรับประทานยาคุมฯที่มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนค่อนข้างสูง เพื่อให้ร่างกายมีสมดุลของฮอร์โมนเพศ

สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนเพศไม่เหมาะสม จึงทำให้เยื่อบุผนังมดลูกไม่หนาตัวมาก จึงมีปริมาณเลือดประจำเดือนน้อย แต่ไม่ส่งผลต่อการคุมกำเนิดเท่ากับการลืมรับประทานยาบ่อย ๆนะครับ
ทั้งนี้หากยังต้องการรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดเดิมต่อไป จะต้อง

1. รับประทานยาให้สม่ำเสมอ เวลาคลาดเคลื่อน +/- ไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการลืมรับประทานยา และไม่เกิดภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอย

2. ไม่ควรลืมรับประทานยา โดยเฉพาะช่วง 7 วันแรกของการรับประทานยา เนื่องจากจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์

3. รับประทานยาทุกชนิดด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มบางชนิดจะทำให้ตัวยาตกตะกอน ร่างกายไม่สามารถดูดซึมยาได้ เช่น ชา (รวมถึงชาเขียว) กาแฟ โกโก้ นม(รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนม - โยเกิร์ต ไอศกรีม) น้ำเต้าหู้ น้ำอัดลม โซดา เป็นต้น หรือน้ำผลไม้ (รวมถึงผลไม้) บางชนิด จะกระตุั้ันให้ตับสร้างเอนไซม์ หรือน้ำย่อยที่ใช้กำจัดยา สร้างได้มากขึ้น จึงกำจัดตัวยาได้มากและเร็วขึ้น จนทำให้ระดับยาในเลือดไม่เพียงพอต่อการออกฤทธิ์ เช่น น้ำส้มค้ั้น (รวมถึงส้มโอ) เกรปฟรุต แครนเบอร์รี่ แอปเปิ้ล ฯ

4. ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกัน โดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิด "ยาตีกัน" จนเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือเสียชีวิตได้

กรณีมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากเภสัชกรร้านยาใกล้บ้าน ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจช้าไม่ทันการ หรือได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์