กระดานสุขภาพ

เรียนคุณหมออนุพงศ์ครับ
Huck*****9

2 พฤศจิกายน 2558 06:08:30 #1

เรียนคุณหมออนุพงศ์

ผมใคร่ขอรบกวนคุณหมอช่วยดูภาพด้วยครับ บริเวณระหว่างขาถัดจากอัณฑะลงมาผิวผมจะมีรอยบวม คันนิดๆแดงๆในรูปอาจจะไม่เห็นชัดเท่า แต่จะสามารถเห็นได้เหมือนกับครับ ผมทายา Fango B ช่วงแรกดีขึ้นมาเลยครับ เช็ดผิวแห้งหลังอาบน้ำ ทายา แต่พอผมหายก็ไม่ได้ใช้มันอีก ประมาณ 3 อาทิตย์ให้หลังก็กลับมาเหมือนเดิม ผมควรจะใช้ยาอะไรให้เหมาะกับโรคดีครับ เพราะยาตัวนี้ใช้แล้วไม่หายเหมือนตอนแรกเลยครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Huckleberry9-25494-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Huckleberry9-25494-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Huckleberry9-25494-3.jpg


ขอบคุณมากครับคุณหมออนุพงศ์

อายุ: 38 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.80 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

11 พฤศจิกายน 2558 04:43:22 #2

ดูจากรูปที่ส่งมาซึ่งไม่ค่อยชัด เห็นเป็นรอยแดงๆที่ขาหนีบ สาเหตุอาจจะมาจากเชื้อราซึ่งมักจะเป็นในคนที่มีเหงื่อออกมาก หรือใส่ชุดชั้นในที่อับชื้น เช่น นักกีฬา หรือคนที่ทำงานที่ออกกำลัง มีเหงื่อ ออกมาก ยาที่คุณใช้มีส่วนผสมของยาแก้แพ้และยาเชื้อรา สาเหตุที่เป็นๆหายๆน่าะมาจากสุขลักษณะ แนะนำว่าให้หาหมอผิวหนังซึ่งอาจจะต้องมีการขูดผิวหนังบริเวณที่เป็นตรวจดูว่ามีเชื้อราหรือไม่หรือเกิดจากการแพ้อย่างเดียว ในกรณีที่เป็นเชื้อรา ให้ทายาเชื้อรา เช่น clotrimazole ประมาณ 4-6 อาทิตย์ และเมื่อหายแล้วต้องระวังเรื่องสุขอนามัย เช่น อาบน้ำ เช้าเย็น ใส่ชุดชั้นในที่แห้งและสะอาด ไม่ใส่ชุดช้นในที่อับชื้น หรือถ้าชุดชั้นในเริ่มมีเหงื่อ อับชื้น ให้เปลี่ยนโดยเร็ว ก็จะไม่เป็นอีก แต่ถ้ายังเป็นก็อาจจะต้องตรวจดูว่ามีโรคประจำตัวหรือไม่ เช่น เบาหวาน จะทำให้เป็นเชื้อราง่ายและเป็นๆหายๆ แต่ถ้าตรวจแล้วไม่พบว่ามีเชื้อรา ก็อาจจะเกิดจากการแพ้ ระคายเคืองหรือารเสียดสีของเนื้อบริเวณขาหนีบ ก็รักษาโดยการใช้ยาแก้แพ้ โดยสรุป แนะนำหาหมอผิวหนังเพื่อตรวจว่ามีเชื้อราหรือไม่ การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุครับ

Huck*****9

17 พฤศจิกายน 2558 10:33:30 #3

ขอบพระคุณมากครับคุณหมอ