กระดานสุขภาพ

มีไข้ต่ำๆเรื้อรังมา 1 เดือนจะเกี่ยวกับ HIV มั้ยครับ
Anonymous

30 ตุลาคม 2558 13:17:19 #1

สวัสดีครับคุณหมอ รบกวนขอคำปรึกษาครับ คือเมื่อประมาณ 6 เดือนก่อนผมไปมีเพศสัมพันธ์มาครับ ก่อนมีอะไรกันฝ่ายหญิงทำ oral sex ให้โดยยังไม่ได้ใส่ถุงยาง จากนั้นก็มีอะไรกันโดยใส่ถุงยางแต่ก็เกิดเรื่องคือเส้นสองสลึงของผมขาด พอรู้ตัว (น่าจะไม่เกิน 1 นาที) ผมก็รีบไปล้างฟอกสบู่ทำความสะอาดแล้วก็ไปโรงพยาบาล หมอเจาะเลือดและให้กินยาต้านไวรัสอยู่ 1 เดือน ผลเลือดที่เจาะครั้งแรกปกติครับ แต่ผมไม่ได้ไปตรวจเลือดซ้ำเพราะเห็นว่าอาการปกติดี หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีก แล้วเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อนผมมีอาการเป็นไข้ จามน้ำมูกใสๆ ไอเล็กน้อย เลยซื้อยาพารามาทานเอง เป็นอยู่ประมาณ 10 วันอาการก็ดีขึ้น แต่หลังจากนั้นก็มีอาการตัวร้อน รู้สึกเหมือนมีไข้ต่ำๆเหงื่อออกเป็นพักๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน มีอาการจามน้ำมูกไหลบ้างนานๆครั้ง ไม่มีอาการไอหรือเจ็บคอ พอทานยาพาราไข้ก็จะลงแต่พอหมดฤทธิ์ยาก็เป็นอีก ไม่ทราบว่าอาการเหล่านี้จะเกิดจากการติดเชื้อ HIV รึเปล่าครับ ตอนนี้รู้สึกกลัวไม่กล้าไปเจาะเลือด รบกวนคุณหมอด้วยนะครับ

อายุ: 33 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 71 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.72 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

11 พฤศจิกายน 2558 04:46:38 #2

เรื่องอาการโรคเอดส์ ขออธิบายดังนี้ 1. การติดเชื้อระยะเฉียบพลัน เกิดขึ้นใน 2-4 อาทิตย์หลังจากที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งอาการจะค่อยดีขึ้นใน 1-4 อาทิตย์ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ค่อยเฉพาะเจาะจงทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว อาจนึกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ 2. ระยะที่ไม่มีอาการจะเป็นระยะต่อจากระยะเฉียบพลัน ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร ระยะนี้จะอยู่ระหว่าง 3-5 ปี แต่ในบางรายอาจนานเป็น 10 ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพของร่างกายและปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด 3. ระยะที่เป็นเอดส์ ผู้ป่วยเริ่มจะมีภูมต้านทานลดลง น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง มีผื่นคันตามตัว เป็นเชื้อราที่ลิ้น ต่อมาเริ่มมีโรคแทรก เช่น งูสวัด วัณโรคปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น

มีการศึกษาโอกาสของการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอดส์ 1 ครั้ง จากมากไปน้อยดังนี้ ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางทวารหนัก 0.5% หญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางช่องคลอด 0.1% ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ทางทวารหนัก 0.065% ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ช่องคลอด 0.05% ชายหรือหญิงที่เป็นฝ่ายทำออรัลเซ็กส์ 0.01% ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกทำออรัลเซ็กส์0.005% อย่างไรก็ตามโอกาสจะเพิ่มขึนถ้าเป็นกามโรคหรือมีแผลด้วย ในกรณีของคุณมีความเสี่ยงมา 6 เดือน โดยมีการทำออรัลเซ็กส์โดยไม่ได้ใช้ถุงยาง ซึ่งจะมีความเสี่ยงประมาณ 0.005% ได้กินยาป้องกันแต่ไม่ได้ตรวจเลือด หลังกินยา จึงไม่สามารถบอกได้ว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ ส่วนอาการที่เล่ามาที่เกิดขึ้นหลังเสี่ยง 6 เดิอน (ถ้าระหว่างนี้ไม่มีความเสี่ยงเพิ่มเติม) ก็อาจจะเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่ได้ตรวจเลือดหลังกินยาป้องกัน แนะนำตรวจเลือดโดยใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทอง หรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจ และถ้าพบว่ามีการติดเชื้อ ก็สามารถรักษาได้ฟรี เช่นเดียวกัน