หูดหงอนไก่มีกว่าร้อยสายพันธ์ มีลักษณะที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิดของสายพันธ์ ที่เกี่ยวข้องกับบริเวณอวัยวะเพศหรือบริเวณทวารหนักหรือที่จัดว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ถ้าไม่ได้รับการรักษาหรือเป็นๆหายๆ ก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นมะเร็ง ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของหูด เช่น สายพันธุ์ 16,18,31,38,45 จะมีโอกาสเป็นมะเร็งสูง ส่วนสายพันธุ์ 33, 35, 39, 51, 52, 56, 58, 59 จะมีโอกาสเสี่ยงปานกลาง ในกรณีของคุณที่ฉีดวัคซีนแล้ว ถ้าเป็นชนิดที่มี 2 สายพันธ์ ก็จะป็องกันสายพะนธ์ 16และ 18 ถ้าเป็นชนิด 4 สายพันธ์ ก็จะป้องกันสายพันธ์ 6 และ 11 ที่ทำให้เป้นหูดตามผิวหนังได้ เพราะฉะนั้นการฉีดวัคซีนจึงไม่ได้หมายความว่าจะไม่เป็นหูดอีก โดยเฉพาะในกรณีของคุณที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน อาจจะมีการสัมผัสเชื้อและเป็นอยู่แล้วก่อนที่จะมีการฉีดวัคซีนก็ได้ สำหรับการติดต่อ คือการร่วมเพศหรือการสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ทำให้ส่วนของไวรัสหูดหลุดไปเข้าสู่ผิวหนังของอีกฝ่ายแล้วมีการเจริญเติบโตกลายเป็นติ่งเนื้อ ถ้าจะมีแฟนใหม่ ก็ควรจะรักษาให้หายขาดก่อน เช่น การใช้ยาจี้ หรือใช่เลเซอร์หรือไฟฟ้าจี้ให้หายก่อน หรืออาจจะต้องป้องกันโดยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งในการมีเพศสัมพันธ์

ในกรณีที่รักษาแล้ว 1 ปี ถ้าไม่มีการรับเชื้อใหม่ก็น่าจะหาย ยกเว้นในบางคนที่อาจจะมีเชื้ออยู่ใต้ผิวหนัง เมื่อร่างกายอ่อนแอหรือภูมิต้านทานลดลง ก็อาจจะใหญ่ขึ้นมาใหม่ได้ ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนนั้น ตามที่ได้ตอบไปแล้ว วัคซีน มีแค่ 4 สายพันธ์ ในขณะที่หูดหงอนไก่มีเป็นร้อยสายพันธ์ วุตถุประสงค์หลักคือ เป็นการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อหูดหงอนไก่สายพัธ์ที่มีโอกาสกลายเป็นมะเร็งปากมดลูกสูง จึงมีการแนะนำให้ฉีดในเด็กผู้หญิง ต่อมามีการศีึกษาพบว่าในผู้ชายก็อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งได้ โดยเฉพาะในชายรักร่วมเพศที่มีการสอดใส่ทางทวารหนัก ถ้าเป็นหูดหงอนไก่ที่รอบทวารหนัก ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งได้เช่นเดียวกัน จึงเพิ่มคำแนะนำให้ฉีดในเด็กผู้ชายก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ ในกรณีของแฟนซึ่งมีเพศสัมพันธ์แล้ว ก็ าจจะไม่ได้ประโยชน์เต็มที่จาการฉีดวัคซีน ประโยชน์คือ จะป้องกันการติดเชื้อเฉพาะสายพันธ์ที่ฉีดเท่านั้น และถ้าเคยมีการติดเชื้อก่อน ก็ไม่สามารถป้องกันได้ ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอครับ