กระดานสุขภาพ

สอบถาม
Anonymous

16 ตุลาคม 2558 03:34:59 #1

คือดิฉันเคยมีเพสสัมพันธ์กับแฟนเก่า1ครั้งเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วโดยไม่ได้ใสถุง. แล้วตอนนี้ดิฉันมีแฟนใหม่และมีเพสสัมพันธ์กับแฟนใหม่ครั้งแรกตอนเดือนกันยายนปีนี้โดยไม่ใส่ถุง
อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 44 กก. ส่วนสูง: 148ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.09 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

16 ตุลาคม 2558 03:36:14 #2

อยากทราบว่ามีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อเอดา์ไหมคะ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

20 ตุลาคม 2558 04:29:18 #3

การติดเชื้อเอดส์ทางเพศสัมพันธ์นั้น จะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งติเชื้ออยู่ก่อน แล้วเมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ก็จะแพร่เชื้อให้อีกฝ่ายหนึ่ง ถ้าแฟนคุณทั้ง 2 คน ไม่มีการติดเชื้อเอดส์ คุณ ก็ไม่มีโอกาสเช่นกัน แต่ถ้าคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนติดเชื้อเอดส์ คุณก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อเอดส์ มีการศึกษาโอกาสของการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอดส์ 1 ครั้ง จากมากไปน้อยดังนี้ ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางทวารหนัก 0.5% หญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางช่องคลอด 0.1% ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ทางทวารหนัก 0.065% ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ช่องคลอด 0.05% ชายหรือหญิงที่เป็นฝ่ายทำออรัลเซ็กส์ 0.01% ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกทำออรัลเซ็กส์0.005% อย่างไรก็ตามโอกาสจะเพิ่มขึนถ้าเป็นกามโรคหรือมีแผลด้วย

ส่วนเรื่องอาการโรคเอดส์ ขออธิบายดังนี้ 1. การติดเชื้อระยะเฉียบพลัน เกิดขึ้นใน 2-4 อาทิตย์หลังจากที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งอาการจะค่อยดีขึ้นใน 1-4 อาทิตย์ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ค่อยเฉพาะเจาะจงทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว อาจนึกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ 2. ระยะที่ไม่มีอาการจะเป็นระยะต่อจากระยะเฉียบพลัน ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร ระยะนี้จะอยู่ระหว่าง 3-5 ปี แต่ในบางรายอาจนานเป็น 10 ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพของร่างกายและปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด 3. ระยะที่เป็นเอดส์ ผู้ป่วยเริ่มจะมีภูมต้านทานลดลง น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง มีผื่นคันตามตัว เป็นเชื้อราที่ลิ้น ต่อมาเริ่มมีโรคแทรก เช่น งูสวัด วัณโรคปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น

ส่วนการตรวจเลือดเพื่อดูว่ามีการติดเชื้อเอดส์หรือไม่ วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ แนะนำตรวจเลือดโดยใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ