กระดานสุขภาพ

ไม่แน่ใจในโรค
Fite*****h

24 กันยายน 2558 04:52:06 #1

ช่วงเดือนสิงหาคม ผมรู้สึกคันๆบิรเวณขอบหัวของอวัยวะเพศ และเวลาผมมีเพศสัมพันธ์กับแฟน(ไม่ใส่ถุง) จะมีแผลที่อวัยวะเพศ(โดนน้ำแล้วแสบมากๆ) แต่เป็นแค่คืนเดียวแล้วก็หาย(จะเป็นบ่อยเกือบทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์) ต่อมา เวลากลับจากทำงาน จะพบว่าอวัยวะเพศของผมมันลอกๆ เป็นสีขาวๆ แต่ล้างน้ำเปล่าก็ออก เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันที่ 19กันยายน แฟนได้ใช้มือกับอวัยวะเพศผม จนเกิดเป็นแผลแสบมากและมีอาการบวมของต่อมน้ำเหลืองขาหนีบข้างซ้ายกดเจ็บ ช่วงบ่ายผมไปหาหมอทันที หมอก็ให้ยามาสองตัวคือ Lamisil cream ทา Doxy 100 กิน 'หมอบอกผมเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบ แต่แผลแห้งแล้วก็คงหาย" ตอนนั้นแผลแห้งจริง แต่หลังจากนั้น มันก็เริ่มลามจนกลายเป็นแผลใหญ่ขึ้น และเพิ่มจาก1ที่เป็น2ที่ วันที่21กันยา ผมก็ไปหาหมออีก แต่ไปหาอีกที่หนึ่ง หมอก็ให้ยามาหนึ่งตัวคือ Clindamycin(clinda GPO) 150mg หมอท่านนี้บอกผมเป็นแผลธรรมดา ยาทาที่หมอคนแรกให้มาไม่จำเป็นต้องทา แล้วก็บอกให้ผมกินยาให้หมดแค่นั้น วั้นที่22กันยา ผมไปหาเภสัชอีกที่หนึ่งเค้าให้ยา Mefa500 มา เค้าบอกตัวนี้จะทำให้แก้ปวดบวมของต่อมน้ำเหลืองได้ แต่แผลผมเหมือนจะลามหนักขึ้น วันที่23กันยา แฟนผมไปหาเภสัชอีกที่หนึ่งโดยเอารูปให้เขาดู เขาบอกผมเป็นเริมที่อวัยวะ เขาพูดตรงอาการทุกอย่าง ผมมีไข้อ่อนๆ ปวดแสบที่แผลอวัยวะ เขาให้ยามา2ตัวคือ Vilerm cream ทา กับ Celex-500 กิน ผมเลยไม่แน่ใจว่าจะกินยาของหมอท่านไหน หรือ กินของทุกหมอได้เลย เพราะหมอแนะนำมาให้กินติดต่อกันให้หมด ผมขอคำแนะนำดีๆหน่อยครับ ผมอยากหาย ผมอยากทราบด้วยว่าห้ามทานสิ่งใดบ้าง ปกติผมเป้นคนออกกำลังกายทุกวันวันล่ะ1-2 ชม.(การยกเวท) ผมต้องหยุดเล่นไหม ผมต้องปฎิบัติตัวเองอย่างไร ขอความการุณาด้วยครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Fitearth-24844-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Fitearth-24844-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Fitearth-24844-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Fitearth-24844-4.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Fitearth-24844-5.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Fitearth-24844-6.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Fitearth-24844-7.jpg

อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 67 กก. ส่วนสูง: 171ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.91 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Fite*****h

24 กันยายน 2558 05:06:12 #2


เกมส์%20เกมส์ทำอาหาร" alt="" />

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

28 กันยายน 2558 14:37:47 #3

ดูจากรูปที่ส่งมาเห็นแผลหลายแผล และมีแผลเล็กๆตื้นๆ รวมทั้งมีตุ่มน้ำใสๆ ถ้าคุณหรือแฟนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความเสี่ยง เช่นมีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง ก็ อาจจะเป็นโรคติตด่อ ที่พบบ่อยคือเริม เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ในกรณีของคุณ ให้กินยารักษาเริมจนครบ 1 อาทิตย์ แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น แสดงว่า าจจมีการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นร่วมด้วย อาจจะกินยาแก้อักเสบ เช่น erythromycin ครั้งละ 500 มิลลิกรัมวันละ 3 ครั้งหลังอหาร ถ้้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอและควรจะตรวตเลือเ ดส์โดยใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ