กระดานสุขภาพ

ตุ่มคันครับ
Pong*****7

22 กันยายน 2558 04:00:06 #1

พอดีไปมีโอกาสเสี่ยงมาจากเหตุการณ์ถุงยางแตกซึ่งผมได้ไปโรงพยาบาลทันทีหลังจากเกิดเหตุ(ไปถึงโรงพยาบาลหลังเกิดเหตุ4ชั่วโมง)ที่โรงบาลได้ให้ยาต้านมาทานและผมก้อทานจนครบไม่มีลืมไม่มีขาดแล้วอยู่ดีดีก็มีตุ่มโผล่ขึ้นมา1ตุ่มผมิยากสอบถามว่านี่ใช่ตุ่มของโรคเอดส์หรือไม่
อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 95 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 31.02 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

28 กันยายน 2558 14:33:16 #2

อาการโรคเอดส์ ขออธิบายดังนี้

1. การติดเชื้อระยะเฉียบพลัน เกิดขึ้นใน 2-4 อาทิตย์หลังจากที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งอาการจะค่อยดีขึ้นใน 1-4 อาทิตย์ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ค่อยเฉพาะเจาะจงทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว อาจนึกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่

2. ระยะที่ไม่มีอาการจะเป็นระยะต่อจากระยะเฉียบพลัน ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร ระยะนี้จะอยู่ระหว่าง 3-5 ปี แต่ในบางรายอาจนานเป็น 10 ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพของร่างกายและปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด

3. ระยะที่เป็นเอดส์ ผู้ป่วยเริ่มจะมีภูมต้านทานลดลง น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง มีผื่นคันตามตัว เป็นเชื้อราที่ลิ้น ต่อมาเริ่มมีโรคแทรก เช่น งูสวัด วัณโรคปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น ในกรณีของคุณ ถ้าแน่ใจว่าใช้ถุงยาง ก็ไม่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ตุ่มที่เป็น อาจจะเกิดจาการแพ้ การอักเสบหรือโรคผิวหนังอื่นๆ แต่ถ้ามความเสี่ยง เช่นมีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง ก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคติดต่อ เช่นเริม ในกรณีของคุณที่กินยาต้านไวรัสป้องการติดเชื้อเอดส์ ก็อาจป้องกนได้ 50-70% 

ส่วนเรื่องตุ่ม ถัามีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรงและหายเเองได้