กระดานสุขภาพ

กินยาคุมฉุกเฉินแต่ตรวจขึ้นสองขีด
Dand*****b

3 กันยายน 2558 12:40:04 #1

สวัสดีครับผมอยากถามว่า มีอะไรกับแฟนไปแล้ว ให้แฟนกินยาคุมฉุกเฉินเมื่ิอต้นเดือน ปรกติ ปจด.ของแฟนจะมาวันที่24โดยประมาน แต่นี่เลยมาเป็นวันที่3ของเดือนใหม่ แฟนกังวลจึงไปซื้อที่ตรวจมา ปรากฎขึ้นสองขีด อยากถามว่าแบบนี้ท้องแล้วแน่นอนใช่ไหมครับ แล้วยาคุมฉุดเฉินที่กินไม่ได้ช่วยอะไรเลยเหรอครับ รึยาคุมฉุกเฉินมีผลอะไรทำให้ที่ตรวจผิดรึป่าวครับ รึว่าท้องชัวร์ ยังไงรบกวนช่วยตอบหน่อยนะครับ เครียดจัด ขอบคุนล่วงหน้านะครับ กราบงามๆ
อายุ: 30 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 64 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.75 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Ceed*****4

3 กันยายน 2558 13:17:23 #2

อ่าา ... อยากให้บอกข้อมูลเพิ่มเติมอะครับว่า  "ให้กินยาคุมฉุกเฉินตอนไหน"  

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

13 กันยายน 2558 13:23:38 #3

ในการมีเพศสัมพันธ์ที่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ แม้สุดท้ายจะไม่ได้หลั่งด้านใน หรือ สอดใส่ก่อนที่จะใส่ถุงยางอนามัย ก็สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้นะครับ เนื่องจากในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์จะมีอสุจิออกมากับสารคัดหลั่งที่ออกมาในช่วงนี้ แม้ปริมาณอสุจิจะน้อย ก็สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ครับ ซึ่งการที่เช็ดนำ้อสุจิหลังมีเพศสัมพันธ์หรือก่อนสอดใส่ หรือ การไปปัสสาวะก่อนที่จะร่วมเพศ ก็ไม่ได้ช่วยทำให้การตั้งครรภ์น้อยลงหรือเป็นการลดปริมาณอสุจินะครับ เพราะ อสุจิจะออกมาช่วงที่มีอารมณ์ทางเพศและช่วงสอดใส่อวัยวะเพศ แม้จะยังไม่ได้หลั่งครับ ดังนั้นในการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันนั้น มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์แน่นอนครับ ซึ่งการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ครับ ซึ่งหากอยู่ในช่วง 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรทานยานี้นะครับ และ หากทานถูกต้อง ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะมีประสิทธิภาพประมาณ 89 - 92 % ครับ หรือหากจะเข้าใจง่ายๆ คือ ทานยานี้ 10 คน จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 9 คนครับ ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ อย่างไรก็ตามก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ หรือ หากสับสนว่าจะตรวจช่วงไหนดี ก็อาจตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมา หากปกติด้วยครับ ซึ่งจากที่กล่าวมา หากตรวจในช่วงที่หมอกล่าวไป ถือว่าการตรวจนี้น่าเชื่อถือได้มากครับว่าตั้งครรภ์จริง แต่ค่อนข้างแปลกตรงที่มีประจำเดือนมาแต่เลื่อนไป เนื่องจากหากตั้งครรภ์จริง ก็ควรไม่มีประจำเดือนครับ หรือ หากเลือดนั้น ไม่ค่อยเหมือนลักษณะประจำเดือนปกติ ก็ควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจอัลตราซาวด์ยืนยันว่าตั้งครรภ์จริงหรือไม่ และ หากตั้งครรภ์จริง เป็นการตั้งในหรือนอกมดลูกครับ