กระดานสุขภาพ

ปรึกษาหน่อยค่ะ
Hana*****1

24 สิงหาคม 2558 01:23:12 #1

ปรึกษาคุณหมอหน่อยคะ คือว่าเมื่อคืน วันที่ 24 สิงหาคม มีเพศสัมพันธ์กับแฟนค่โดยแฟนใส่ถุงยาง แต่ก่อนใส่ ครั้งแรกใส่กลับด้านค่ะ ถุงยางสัมผัสกับอวัยวะเพศบริเวณโคนจึงพลิกกลับด้านใส่ด้านที่ถูกต้องค่ะ แฟนไม่หลั่งและไม่เสร็จค่ะ ซักพักเค้าก็เอาออกมาช่วยตัวเองต่อจึงหลั่งอสุจิค่ะ ตอนนี้กังวลมากเลยกินยาคุมฉุกเฉินเม็กแรกไปตอน 08.15 ค่ะ อีก 12 ชม.จะทานอีกเม็ด อยากทราบว่ากรณีแบบนี้จะตั้งครรภ์ไหมคะ ทั้งการใส่ถุงยางกลับด้านแล้วพลิกอีกด้านมาใส่แต่ไม่ได้หลั่งและไม่เสร็จ รวมถึงกินยาคุมฉุกเฉินร่วมด้วย มีโอกาศไหมคะ ปกติเป็นคนมีรอบเดือนประมาณ 40วันค่ะ ครั้งก่อนหน้านี้รอบเดือนมาวันที่ 24-28 กคค่ะ คาดว่าอีกประมาณ 4 -5วันประจำเดือนจะมี แต่กินยาคุมฉุกเฉินไปจะมีผลอะไรไหมคะ
อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.03 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Hana*****1

24 สิงหาคม 2558 01:25:20 #2

เพิ่มเติมค่ะ หลังจากมีพสพ มีความกังวลเลยลอง รองน้ำใส่ในถุงยางค่ะ ไม่มีรอยรั่วหรือฉีกขาดค่ะ เพียงแต่มีการใส่กลับด้านในตอนแรก จะเป็นไรไหมคะ
Hana*****1

24 สิงหาคม 2558 03:22:58 #3

แก้ไชค่ะรอบเดือน 35วันค่ะ
Hana*****1

24 สิงหาคม 2558 07:00:05 #4

ขอโทษค่ะคุณหมอ ขอแก้ไขอีกครั้งคือ ถุงยางสัมผัสอวัยวะเพศบริเวณส่วนหัว ค่ะ
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

4 กันยายน 2558 14:23:38 #5

ในเรื่องของการใช้ถุงยางอนามัยที่กลับด้านแล้วใส่ไปใหม่นั้น โอกาสที่จะทำให้ตั้งครรภ์นั้นน้อยมากๆครับ สบายใจได้ แต่หมอคิดว่า เพื่อความสบายใจควรเปลี่ยนถุงยางอันใหม่จะดีกว่าครับ ส่วนยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น หากเป็นช่วงกลางรอบเดือนพอดีและกังวลมากๆ ก็อาจทานได้ครับ แต่อาจทำให้มีผลข้างเคียงได้ ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ

หมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ และ เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ