มีการศึกษาโอกาสของการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอดส์ 1 ครั้ง จากมากไปน้อยดังนี้ ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางทวารหนัก 0.5% หญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางช่องคลอด 0.1% ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ทางทวารหนัก 0.065% ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ช่องคลอด 0.05% ชายหรือหญิงที่เป็นฝ่ายทำออรัลเซ็กส์ 0.01% ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกทำออรัลเซ็กส์0.005% อย่างไรก็ตามโอกาสจะเพิ่มขึนถ้าเป็นกามโรคหรือมีแผลด้วย ในกรณีของคุณที่มีการร่วมเพศกับสาวแปลงเพศ ถ้ามีการใช้ถุงยางและถุงยางไม่ขาด ก็ไม่น่าจะติดเชื้อเอดส์ เพราะการเลียหัวนมหรือการใช้นิ้ว ทางการแพทย์ ยังไม่พบว่ามีการติดเชื้อได้ ส่วนเรื่องเริม ถ้า คู่นอนเป็นแผลเริม ขณะมีมีการทำออรัลเซ็กส์หรือจูปปาก หรือเลียหัวนม ก็อาจจะมีโอกาสติดเชื้อเริมได้ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง โดยสรุป เรื่องเอส์ ถ้าไม่แน่ใจแนะนำตรวจเลือดโดยใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทอง ประกันสังคม ไม่เสียค่าตรวจครับ

การถอดแลัวไส่ถุงยางผมว่าหน้าจะด้านเดียวกัน เพราะไสด้ายลูบลงครับ  และผมออรัลไส่ถุงครับ  ผมเสียงมากไมครับ

ถ้าแน่ใจว่าไม่มีการเปื้อนสารคัดหลั่ง รวมทั้งมีการใช้ถุงยางในการทำออรัลเซ็กส์ ก็ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์ ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำตรวจเลือเอดส์ตามสืทธิที่มี เช่น บัตรทอง ประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจ