กระดานสุขภาพ

คุณหมอตอบหน่อยนะครับ
Anonymous

5 สิงหาคม 2558 14:08:30 #1

คือตอนนี้ประจำเดือนมาช้าไป6วันแล้วคับ ล่าสุดมาวันที่1-8 กค. มีอะไรกับแฟนก็วันที่7กค.กับ15กค.คับ ใส่ถุงยางก่อนมีอะไรกันทุกครั้งคับ แต่ประจำเดือนยังไม่มาเลย ปกติแล้วแฟนผมประจำเดือนมักมาช้าเสมอเลยคับ ตอนนี้วันที่4-5เริ่มมีอาการคัดตึงเต้านมและเจ็บหัวนม มีตกขาวเยอะมาก นี่ใช่อาการก่อนเป็นประจำเดือนมั้ยคับ แต่แฟนผมปัสสาวะบ่อยมากแล้วก็คัดตึงเต้านมอาการของคนท้องเท่าที่ทราบมาต้องอย่างน้อย2เดือนถึงจะเริ่มมีมาใช่มั้ยคับ ตอนนี้ก็แค่อาการก่อนประจำเดือนมาเฉยๆ รบกวนด้วยคับหมอ

อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 47 กก. ส่วนสูง: 164ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.47 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

8 สิงหาคม 2558 13:45:30 #2

ตอนนี้ก็9วันแล้วคับคุณหมอ ประจำเดือนยังไม่มาเลย แต่แฟนยังมีอาการคัดตึงหน้าอกอยู่คับ อาการนี้เป็นอาการของประจำเดือนจะมาใช่มั้ยคับ ไม่ใช่อาการคัดตึงหน้าอกของคนท้องใช่มั้ยคับ อาการของคนท้องจะเริ่มมีขึ้นเมื่อไหร่คับ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

13 สิงหาคม 2558 03:53:01 #3

หากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศทุกครั้ง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์ครับ ซึ่งอาการต่างๆที่กล่าวมานั้น หมอคิดว่า น่าจะเป็นอาการของก่อนมีประจำเดือนครับ ส่วนลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ ไม่ควรไปทานยาอะไรก็ตามที่ต้องการให้มีเลือดประจำเดือนออกมาหรือเป็นการขับเลือดนะครับ เนื่องจากยาในกลุ่มนี้หากเป็นกลุ่มที่เป็นฮอร์โมน นอกจะไม่ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบดี ยังส่งผลต่อทำให้ประจำเดือนผิดปกติ อาจมามาก มากะปริดกะปรอย หรือ ขาดหายไปนาน และไม่มาตามรอบนะครับ

ในเรื่องของอาการตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ

Anonymous

13 สิงหาคม 2558 10:52:26 #4

ตอนนี้ก็2สัปดาห์แล้วคับ ประจำเดือนก็ยังไม่มา อาการคัดตึงหน้าอกยังมีอยู่คับหมอ ที่ผมกังวลคือในขณะที่สอดใส่ถ้าถุงยางมันเลื่อนมาครึ่งอวัยวะเพศชายในตอนนั้นยังไม่เสร็จคับ แล้วก็รูดจนสุดใหม่ ถ้าถุงยางไม่ได้หลุดแต่แค่เลื่อนไป จะมีโอกาสที่น้ำหล่อลื่นจะไหลย้อนออกมาที่โคนได้มั้ยคับ เพราะตอนนั้น ผญ.อยู่ด้านบน

รบกวนตอบอีกครั้งนะคับหมอ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

18 สิงหาคม 2558 14:29:37 #5

จากลักษณะที่กล่าวมา ถือว่า ไม่ทำให้ตั้งครรภ์ครับ