กระดานสุขภาพ
มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ต่อเนื่องกันสองอาทิตย์ | |
---|---|
30 กรกฎาคม 2558 03:57:07 #1 สวัสดีค่ะคุณหมอ คือหนูมีอะไรกับแฟนเมื่อประมาณสองอาทิตย์ก่อน แล้วก็เพิ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกค่ะ แฟนใส่ถุงยางอนามัยนะคะ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ประจำเดือนกำลังจะหมดพอดี ตอนนั้นรู้สึกเจ็บมาก หลังเสร็จกิจ มีเลือดสดออกมาเล็กน้อย แล้วก็รู้สึกแสบๆบริเวณช่องคลอด หลังจากนั้น 1-2 วันอาการเจ็บปวดบริเวณช่องคลอดหายไป แต่มีเลือดไหลออกจากช่องคลอดกระปริบประปรอยมาแทน ปริมาณไม่มากเหมือนประจำเดือน เป็นอยู่จนกระทั่งตอนนี้ค่ะ ต้องใส่ผ้าอนามัยไว้ มีลักษณะเป็นมูกเลือด บางครั้งเป็นสีแดง บางครั้งเป็นเลือดเก่าสีน้ำตาล ไม่มีอาการปวดท้อง ไม่มีอาการอื่นร่วมเลยค่ะ มีแต่เลือดออกมาจากช่องคลอดแค่นั้น อยากทราบว่า ควรไปพบสูติ นรีแพทย์มั้ยคะ คือตอนนี้กังวลและเครียดมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ |
|
อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.10 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
31 กรกฎาคม 2558 16:06:18 #2 การที่มีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์อาจจะเกิดจากการฉีกขาดของปากช่องคลอด หรือการแตกของหลอดเลือดบริเวณปากมดลูก ถ้าเลือดยังออกมากตลอดควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา เพราะไม่น่าจะเป็นเรื่องปกติเนื่องจากเลือดออกมานานถึง 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ ถ้ามีการทานยาคุมฉุกเฉินหลังจากมีเพศสัมพันธ์ก็อาจจะเป็นสาเหตุให้มีเลือดออกผิดปกติได้เช่นกันค่ะ |
Winw*****i