กระดานสุขภาพ

ช่วยดูให้หน่อยครับ มี เม็ดเล็กๆที่ปลายอวัยวเพศ (มีรูป)
Temp*****d

23 กรกฎาคม 2558 03:25:00 #1

สวัสดีครับ

รับกวนคุณหมอด้วยนะครับ

ประวัติ

เคยเป็น ซิฟิลิส เมื่อ 7 เดือนที่แล้่วทานยาจนหายเมื่อเดือน ก.พ ที่ผ่านมาแล้วอยู่ๆเป็นแบบนี้เลยกังวลครับ

 

รูป

http://haamor.com/media/images/webboardpics/tempurad-23697-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/tempurad-23697-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/tempurad-23697-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/tempurad-23697-4.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/tempurad-23697-5.jpg

 

ขอบพระคุณคุณหมอล่วงหน้าครับ

อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 95 กก. ส่วนสูง: 181ซม. ดัชนีมวลกาย : 29.00 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

25 กรกฎาคม 2558 13:37:19 #2

เนื่องจากรูปที่ส่งมาเล็ก และตุ่มที่บริเวณส่วนหัวของอวัยวะเพศก็มีขนาดเล็ก ไม่สามารถเห็นรายละเอียดได้ ขออธิบายเพิ่มเติมเรื่องซิฟิลิส

ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จะมีโอกาสพบบ่อยกว่าชายทั่วไป แบ่งเป็น 1.แผลริมแข็งหรือระยะที่ 1 รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 2. ระยะที่ 2 มีอาการผื่นขึ้นตามตัวไม่คัน ผมร่วงเป็นต้น รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 3.ระยะแฝง ไม่มีอาการ รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต 3 ครั้งติดต่อกัน (อาทิตย์ละ 1 เข็ม) 1.การติดตามผลการรักษาโดยการตรวจ VDRL หรือ RPR มีข้อบ่งชี้ว่าต้องรักษาซ้ำ เมื่อค่า VDRL หรือ RPR เพิ่มขึ้นจากก่อนรักษาหรือในการติดตามผลในการตรวจครั้งต่อๆมามากกว่า 4 เท่า หรือเมื่อครบ 1ปี ยังมีค่ามากกว่า 1:8 ในกรณีของคุณที่รักษาโดยการกินยา แนะนำว่า ควรตรวจทุก 3-6 เดือน เพื่อติดตามผลการักษา ส่วนผื่นที่เป็นอาจจะเกิดจากการแพ้หรือระคายเคือ่งต่อสารที่ใช้หรือ สัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยาต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและค่อนข้างแห้ง และอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็กล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ถ้าไม่ดีขึ้นหรือไม่แน่ใจแนะนำหาหมอครับ ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี

Temp*****d

26 กรกฎาคม 2558 06:58:35 #3

อัพเดทครับหมอ อาการคล้ายๆที่เคยเป็นซิฟิลิซแต่ไม่ใจว่าใช่หรือไม่ เพราะไม่มีแผลริมแข็งแบบที่เคยเป็น หรืออาจจะแค่ติดเชื้อราครับ ถ้าผมกินยา อม็อกซี่ จะช่วยได้มัยครับ

 

http://haamor.com/media/images/webboardpics/tempurad-23697-6.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/tempurad-23697-7.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/tempurad-23697-8.jpg

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

28 กรกฎาคม 2558 14:34:14 #4

รูปที่ส่งมาใหม่ เห็นเป็นตุ่มแดงๆเล็กๆที่บริเวณส่วนหัว น่าจะเกิดจากการแพ้ ระคายเคืองสารที่ใช้ เช่น สบู่ยา ครีม เจลอาบน้ำ ร่วมกับความอับชื้นจึงอาจมีเชื้อราร่วด้วย

แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ประโยชน์ของการขลิบ คือ ทำความสะอาดง่ายไม่เกิดแผลเวลามีเพศสัมพันธ์และมีการวิจัยที่ทวีปแอฟริกาพบ ว่าการขลิบหนังหุ้มปลายช่วยลดการติดเชื้อเอดส์เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ขลิบ 40% แต่ ประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาเรื่องนี้ ส่วเรื่องที่กลัวว่าจะเป็นซิฟิลิส แนะนำตรวจเลือด RPR หรือ VDRL หรือTP ก็จะบอกได้ครับ