กระดานสุขภาพ

ใส่ถุง หลั่งนอก ท้องไหม
Anonymous

19 กรกฎาคม 2558 06:48:57 #1

ผมมีเพศสัมพันธ์ุกับแฟน ผมใส่ถุงยางอนามัยตลอดการมีเพศสัมพันธุ์ และในช่วงใกล้เสร็จผมก็เอาออกแล้วหลั่งข้างนอก จากนั้นผมจึงไปเข้าห้องน้ำล้างอวัยวะเพศ แล้วจึงสวมใส่ถุงยางอันใหม่ ก่อนจะมีเพศสัมพันธุ์กับแฟนอีกรอบ ครั้งนี้ผมทำเหมือนเดิมคือจะเสร็จแล้วหลั่งนอกโดยที่ยังสวมถุงยางอนามัยนะครับ แต่ครั้งนี้ ผมพบน้ำสีขาวขุ่นตรงโคนอวัยวะเพศภายในถุงด้วยครับ ผมตรวจสอบถุง ก็ไม่รั่วนะครับ และยังมีอสุจิที่ส่วนปลายถุงอยู่ด้วย ไม่ทราบว่าน้ำสีขาวขุ่นที่พบตรงโคนอวัยวะเพศคือน้ำอะไรครับ แล้วมีสิทธิ์ที่มันจะเล็ดลอดไปหาแฟนผมได้ไหมครับ อีกอย่างนึงคือแฟนผมบอกว่า 2 เดือนก่อนประจำเดือนเขามาตรงกันคือวันที่ 22 ซึ่งเขามีประจำเดือนสม่ำเสมอและวันใกล้เคียงกันทุกเดือน ผมมีเพศสัมพันธุ์กับแฟนวันที่ 16 ถือว่าอยู่ในระยะปลอดภัยไหมครับ แล้วแฟนผมมีสิทธิ์ท้องรึเปล่าครับ รบกวนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 65 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.22 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

22 กรกฎาคม 2558 15:55:02 #2

หากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศทุกครั้ง แม้จะหลั่งด้านในหรือด้านนอก ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์ครับ ส่วนสิ่งที่สังเกตได้นั้น อาจเป็นสารคัดหลั่งของฝ่ายหญิงครับ อาจมีสีขุ่นๆได้ครับ ส่วนเรื่องประจำเดือนหรือรอบวันที่ปลอดภัยนั้น อย่างที่หมอกล่าวไป หากใช้ถุงยางถูกต้อง ไม่ต้องกังวลครับ ซึ่งหมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ และ เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ