กระดานสุขภาพ

ผมเป็นแผลที่อวัยวะเพศครับ รบกวนคุณหมอด้วยครับ
Anonymous

6 กรกฎาคม 2558 14:25:26 #1

เมื่อวันที่ 2/7/2015 ผมได้มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงขายบริการครับ โดยใส่ถุงยาง แต่โดนอมสด

ตอนนี้มีแผลขึ้นตามรูป ไม่แน่ใจว่าเป็นกามโรคใช่รึเปล่าครับ 

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72904-23365.jpg

อายุ: 31 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 67 กก. ส่วนสูง: 173ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.39 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

8 กรกฎาคม 2558 15:02:38 #2

เนื่องจากรูปที่ส่งมาเห็นเป็นแผลเล็กๆหนึ่งแห่ง แต่ไม่สามารถเห็นรายละเอียดของแผลได้ การทำออรัลเซ็กส์โดยไม่ใช้ถุงยาง ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อกามโรคได้

โรคที่พบบ่อยคือ 1. เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจาการติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง

2. ซิฟิลิส จะเป็นแผลแข็ง ไม่เจ็บ รักษาโดยใช้ยาฉีด benzathine pencillin 2.4 ล้านยูนิต ปัจจุบันพบบ่อยขึ้นโดยเฉพาะในชายรักร่วมเพศ

3. แผลริมอ่อน แผลเจ็บและลึก ปัจจุบันพบไม่บ่อย

แนะนำหาหมอและควรจะตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิสด้วยครับ

Anonymous

9 กรกฎาคม 2558 02:20:59 #3

คุณหมอครับ ผมรบกวนขอสอบถามเพิ่มเติมเป็นข้อๆนะครับ

1) ผมได้ไปหาหมอที่คลินิก กามโรคแล้ว คุณหมอที่คลินิก แจ้งว่า ไม่ใช่ เริม เนื่องจากขึ้นตุ่มเดียว น่าจะเป็น

น่าจะเป็นต่อมใต้ผิวหนังอักเสบ จึงให้ยามาทา และ ให้ยา ตระกูลเดียวกับ เตตราไซคลีนมากิน 7 วัน

หลังจากเจอตุ่มวันอาทิตย์ วันนี้วันพฤหัส ตอนนี้แผลผมจะหาย ตามรูปแล้วครับ ตกลงไม่ใช่เริมใช่ไม้ครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/72904-23365-2.jpg

2) ผมเคยเป็นเริมที่ปากครับ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่เริมครั้งนั่น ผมไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับใคร น่าจะเป็นเริมคนละตัวกับที่คุณหมอบอกใช่มั้ยครับ เพราะหากครั้งนี้เกิดเริมที่อวัยวะเพศ จะต้องขึ้นตุ่มเยอะๆ เพราะถือว่าขึ้นที่อวัยวะเพศครั้งแรกใช่ไม้ครับ 

3) การที่ผมกินยากลุ่ม เตตราไซคลีนไป หากผมไปตรวจ ซิฟิลิส ตอน 1 เดือน จะทำให้ตรวจหาไม่เจอรึเปล่าครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

11 กรกฎาคม 2558 06:05:26 #4

ดูจากรูปที่ส่งมา แผลแห้งแล้ง คงไม่สารถบอกได้ว่าเป็นเริมหรือไม่ ในกรณีของคนที่เคยเป็นเริมมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เมื่อเป้นครั้งต่อไป ร่างกายจะมีภดูมิต้านทานอยู่ ทำให้อาการที่เป็นจะไม่รุนแรง เหมือนกับคนที่เป็นครั้งแรก ส่วนเรื่องเขื้อเริม ที่ริมฝีปากหรือที่อวัยวะเพศ เป็นเชื้อตัวเดียวกัน คือ Herpes simplex virus แต่มีชนิด คือ Type 1และ 2 ซึ่งสรารถเป็นได้ทั้งที่ริมฝีปากหรือที่อวัยวะเพศ แล้วแต่ว่าจะสัมผัสเชื้อบริเวณไหน เช่น การทำออรัลเซ้กส์ หรือการสอดใส่ทางทวารหนัก ก็จะติดเชื้อบริเวณนั้น เรื่องยาเตตรา เป็นยาที่ฆ่าเชื้อซิฟิลิสได้ ถ้ากินยาตั้งแต่ตอนที่เริ่มเป็นใหม่ๆและกินครบ 2 อาทิตย์ ก็จะหายได้และก็อาจจะทำไให้ผลการตรวจเลือดเป็นลบได้