กระดานสุขภาพ

คาดว่าจะเป็นซิฟิลิสครับ
Anonymous

3 กรกฎาคม 2558 18:28:51 #1

ผมเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน กับผู้หญิงที่ไม่ใช่แฟน (คนแปลกหน้า)

ก็ไม่มีอะไรครับ  ใส่ถุงตามปกติ   ในวันที่ 29 3 ไม่มีอะไร

แต่พอวันที่ 1 มีการช่วยตัวเอง  รอบแรกรู้สึกเจ็บตอนใกล้จะเสร็จ เลยไม่ได้สนใจอะไรอะครับ

พอรอบสอง รู้สึกเจ็บแปลบๆ เลยสังเกตพบมีรอยแผล คล้ายแผลถลอกบริเวณหัวปลายอวัยวะเพศ

 

เลยเอาน้ำเกลือเช็ดรอบอวัยวะเพศ แล้วใช้ไอโอดีน(เบตาดีน)เช็ดบริเวณปากแผล  

พอวันที่ 2 ก็พบว่าแผลมีบริเวณกว้างขึ้น(นิดเดียว)  ก็เหมือนเดิมครับ  เอาเบตาดีนเช็ดแล้วนอน

พอวันที่ 3 ก็ทำการเช็ดในตอนเช้า แผลเริ่มไม่มีอาการเจ็บแล้วครับ ( วันแรกแสบมาก)  วันนี้ก็พยายามดึงหนังหุ้มปลายมาไว้ด้านหลัง เผื่อไม่ให้แผลอับชื้น

พอคืนวันที่ 3 พบว่าแผลแห้ง ขอบๆนูนนิดๆ ตรงกลางใสๆสะท้อนแสง  

 

เห็นภาพแล้วนึกถึงซิฟิลิสเลยครับ  กลัวจะเป็นซิลิฟิส  หาข้อมูลเขาบอกว่าปกติจะออกอาการ 2 อาทิตย์ 

เลยมองย้อนไปในช่วง 1 เดือนก่อนหน้า ก็ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์นะครับ  

ตั้งใจจะไปตรวจเลือดช่วงๆเดือนหน้าอะครับ  ช่วงนี้ช็อต    แต่กลัวว่าถ้าเป็นจะรักษาไม่ทัน

เลยมาขอความเห็นจากแพทย์หน่อยครับ

 

เดี๋ยวผมลงรูปจริง ให้ดูนะครับ  กล้องแบตหมด   ฝากภาพจำลองไว้ก่อน

http://haamor.com/media/images/webboardpics/2d9b0-23302.jpg

อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 95 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 29.32 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

3 กรกฎาคม 2558 18:29:38 #2

ใช้ถุงตลอดนะครับ  

blowjob ก็ผ่านถุงครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

5 กรกฎาคม 2558 12:50:55 #3

ในกรณีที่มีแผลที่อวัยวะเพศ

ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น เที่ยวผู้หญิง ไม่ใช้ถุงยาง มีคู่นอนหลายคน

1. โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น
มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรงและหายเอง

2. แผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง เกิดหลังมีความเสี่ยง 10- 90 วัน แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคนี้พบบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (เกย์)

3. แผลริมอ่อน เป็นหลังเสี่ยง 3- 7 วัน จากเชื้อแบคทีเรีย Hemophilus ducreyi แผลลึก เจ็บ ปัจจุบันพบไม่บ่อย รักษาโดยใช้ยากิน เช่น erythromycin ครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งหลังอาหารและก่อนนอน 7 วัน

ในกรณีของคุณ ถือว่ามีความเสี่ยง ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอผิวหนังหรือกามโรค หรือส่งรูปถ่ายบริเวณที่เป้นชัดๆมาให้ดูเพิ่มเติม

Anonymous

5 กรกฎาคม 2558 18:10:14 #4

ถ้าไปตามคลีนิกเสียค่าใช้จ่ายเรทช่วงเท่าไหร่ครับ   กลัวไม่มีตังจ่าย

http://haamor.com/media/images/webboardpics/2d9b0-23302-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/2d9b0-23302-2.jpg

Anonymous

6 กรกฎาคม 2558 07:50:26 #5

วันแรกที่เป็น ถ้าโดนแผล หรือน้ำโดนแผล ก็แสบเล็กๆ

หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บอะไรแล้วครับ

ภาพด้านบน ถ่ายคืนวันที่ 5 นะครับ



วันนี้ไปหาหมอโรคผิวหนังมา  บอกมาตรวจกามโรค   เขาไม่รับตรวจ ทำหน้าตายี๋ใส่ด้วย   

T-T

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

8 กรกฎาคม 2558 15:04:03 #6

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นผื่นแดงและผิวค่อนข้างแห้ง

น่าจะมีสาเหตุมาจากการระคายเคือง แพ้สารที่สัมผัส เช่นสบู่ยา น้ยาทำความสะอาด เป็นต้น และอาจจะเป็นเชื้อราร่วมด้วย วิธีรักษาคือเริ่มด้วยการทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนๆ เช่น สบู่เด็ก ห้ามใช้สบู่ยาหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ จะยิ่งบวมและอักเสบมากขึ่น เช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อราและเสตียร์รอยด์อ่อนๆ เช่น clotrimazole+ triamcinolone 0.02% ประมาณ 5 -7 วัน น่าจะดีขึนครับ ส่วนเรื่องการหาหมอ ถ้าใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทอง หรือประกันสังคม ก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือตาม รพ. รัฐบาล ก็ไม่แพงครับ นพ. อนุพงศ์

Anonymous

9 กรกฎาคม 2558 21:08:38 #7

ขอบคุณ คุณหมออนุพงศ์มากครับ  ตอนนี้แผลหาย แห้งสนิทแล้วครับ