กระดานสุขภาพ

ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ " มะเร็งปากมดลูก" ค่ะ
Vipo*****e

3 กรกฎาคม 2558 00:40:28 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ 

ดิฉันมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดตอนอายุ 23 ปี ปัจจุบัน อายุ 30 ปี   พอดีได้เข้าไปอ่านโรคเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกในเว็บต่างๆ แล้วไม่สบายใจ จึงได้ไปตรวจคัดกรอง (แป๊บสเมียร์) หาเซลล์มะเร็งที่ รพ. แห่งหนึ่ง เมื่อปีที่แล้วค่ะ

หลังจากรอผล 1 อาทิตย์ ผลปรากฎว่าไม่พบเซลล์มะเร็งค่ะ 

 

คำถามคือ ในกรณีแบบนี้.

1.  หากอยากฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็ง จะได้ประสิทธิภาพเท่ากับ คนที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ไหมคะ

2.  คุณหมอเจ้าของใข้ แนะนำให้ไปตรวจทุกปี แบบนี้หากดิฉันไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับใครเลย (ตั้งแต่เว้นช่วง 7 ปี และ      เพิ่งไปตรวจเมื่อปีืที่แล้ว) จำเป็นต้องไปเช็คทุกปีไหม

3.  เป็นไปได้ไหมคะที่อนาคตอาจตรวจพบเซล์มะเร็งได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลย

 

ขอขอบพระคุณคุณหมอล่วงหน้าค่ะ

อายุ: 30 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 45 กก. ส่วนสูง: 157ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.26 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

5 กรกฎาคม 2558 04:43:45 #2

ปัจจุบันคนไทยมีความตื่นตัวมากขึ้นในการตรวจคัดกรองเรื่องมะเร็งปากมดลูก จากคำแนะนำของราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ทั่วไปจะแนะนำให้สตรีที่มีเพศสัมพันธ์แล้วทำการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปี และในสตรีที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก็จะต้องทำการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกด้วยเมื่ออายุ 25-30 ปี ขึ้นไป เพระามีรายงานการเกิดมะเร็งปากมดลูกในสตรีโสดเช่นกัน สตรีโสดจึงต้องเช็คมะเร็งปากมดลูกด้วย สาเหตุของมะเร็งปากมดลูกจะเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เอชพีวี ซึ่งเป็นตัวการสำคัญโดยเฉพาชนิดที่ 16 และ 18 นอกจากนี้ ยังมีชนิดอื่นๆ อีกสิบกว่าชนิดที่เป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูก จึงมีการผลิตวัคซีนออกมาเพื่อลดการติดเชื้อเอชพีวีลงไป โดยวัคซีนที่ผลิตออกมานั้นสามารถป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีได้บางกลุ่มสายพันธุ์ แต่ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่รุนแรงเช่น 16 และ 18 หลังฉีดจึงสามารถลดความเสี่ยงต่อากรเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ร้อยละ 70 แต่อีกร้อยละ 30 ของมะเร็งปากมดลูกยังเกิดจากเอชพีวีสายพัยธุ์อื่นที่วัคซีนไม่สามารถป้องกันได้ ดังนั้น หลังฉีดวัคซีนแล้วก็ยังต้อวทำการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกๆ ปี ไม่ใช่จะไม่มีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกอีกเลยหลังฉีดวัคซีน เพียงแต่ลดความเสี่ยงลงเท่านั้น ในกรณีที่คุณเคยได้รับการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกไปแล้วอละยังไม่พบเซลล์ผิดปกติ แต่ไม่แน่ใจว่ามีเชื้อไวรัสเอชพีวีกลุ่มเสี่ยงอยู่ในตัวหรือไม่ อาจจะพบแพทยืเพือ่ปรึกษาในการรับการตรวจหา ดีเอ็นเอ ของเชื้อเอชพีวีชนิด 16 และ 18 อีกครั้ง แต่กรตรวจหาดีเอ็นเอมีราคาแพง ส่วนใหญ่ก็จะฉีดวัคซีนไปเลยถ้าต้องการฉีด เพราะราคาอาจจะถูกกว่าการไปตรวจหาดีเอ็นเออีกครั้ง การฉีดวัคซีนในคนที่มีเพศสัมพันธ์แล้วอาจจะมีประสิทธิภาพไม่ดีเท่าในคนโสดไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เพราะอาจจะมีเชื้อเอชพีวีในตัวแล้ว แต่ก็สามารถฉีดได้ ไม่มีอันตรายแต่อย่างใดค่ะ