กระดานสุขภาพ

รบกวนคุณหมอวินิจฉัยให้หน่อยครับ
G_Gu*****S

25 มิถุนายน 2558 11:02:48 #1

สวัสดีครับ คุณหมอ

ผมไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไรถึงเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้ผมเป็นแผลที่หนังหุ้มอวัยวะเพศครับทำการรักษาจนหายหลังจากหายแล้วผ่านมาประมาณ 1 เดือน ก็เริ่มเป็นอย่างที่คุณหมอเห็นในภาพครับ

ลักษณะที่เห็น ไม่ใช่ตุ่ม หรือผื่นใด ไม่มีน้ำเหลืองครับ จะเป็นลักษณะคล้ายๆก้อนเนื้องอกออกมาครับไม่มีอาการคันหรือเจ็บแต่อย่างใดครับแต่จะมีอาการคันที่หนังหุ้มอวััยวะด้านภายนอกเท่านั้นครับตรงส่วนที่เหนในรูปไม่มีอาการใดแสดงออกมาเลยครับ

การรักษา ตั้งแต่เป็นยังไม่ได้ไปพบแพทย์ครับ ทำความสะอาดโดยการเช็ดด้วยน้ำเกลือหลังอาบน้ำเสดครับส่วนอาการคันด้านนอกนั้น ทายาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ได้มาจากโรงพยาบาลตอนเป็นแพลที่อวัยวะครับ

Link รูปครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/G_GuS-23120-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/G_GuS-23120-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/G_GuS-23120-3.jpg

ขอบคุณครับ

 

อายุ: 27 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.76 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

27 มิถุนายน 2558 15:03:40 #2

ดูจากรูปที่ส่งมา มีติ่งเนื้อขึ้นรอบๆหนังหุ้มและที่อวัยวะเพศ ตุ่มที่เห็นตามภาพมีลักษณะเป็นหูดหงอนไก่ เกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวี (Human papilloma virus) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยขึ้น รักษาโดยการใช้ยา เช่น podophyllin หรือ trichloracetic acid จึ้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ประมาณ 4-6 อาทิตย์ ก็จะหลุด แต่ถ้าไม่หลุดหรืออาจจะใหญ่ขึ้นมาอีก อาจต้องใช้ไฟฟ็าจี้ หรือใช้เลเซอร์ อยางไรก็ตามพบว่ามักจะเป็นๆหายๆ เนื่องจากอาจจะมีเชื้อหูดอยู่ใต้ผิวหนัง มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เมื่อโตพ้นผิวหนังจึงจะเห็น จึงอาจจะต้องจี้ซ้ำหลายๆครั้งจนหายขาด และเนื่องจากว่าหูดเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ จึงแนะนำให้ตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิสด้วย โดยใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทอง บัตรประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และถ้ามีคู่นอนประจำหรือแฟน ก็ควรจะต้องตรวจรักษาพร้อมกัน และใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีการร่วมเพศ นอกจากนี้มีการศึกษาพบว่าในระยะยาว มีโอกาสที่จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งด้วย แนะนำหาหมอเพื่อรักษาและติดตามต่อเนื่องครับ

G_Gu*****S

29 มิถุนายน 2558 03:05:08 #3

ขอบคุณ คุณหมอมากครับ แต่นอนกจากสาเหตุการมีเพศสัมพันธแล้ว การช่วยตัวเองอาจมีสิทธิเป็นแบบนี้รึเปล่าครับเพราะผมนั้นไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับใครตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ครับ ตอนที่มีแผลที่อวัยวะเป็นตอนเดือน ปลายมีนาคม ที่ผ่านมาครับ ทำการรักษาจนแผลหายช่วงสิ้นเดือนเมษายนครับ แล้วประมาณปลายๆเดือน พฤษภาคมก่อเป็นอย่างที่คุณหมอเหนในรูปครับ

 

ขอบคุณครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

2 กรกฎาคม 2558 08:40:33 #4

โรคหูดหงอนไก้ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีของคุณน่าจะรับเชื้อตั้งแต่ตอนที่เป็นแผล เชื้อไวรัสจะอยู่ชั้นใต้ผิวหนัง และจะค่อยๆมีขนาดใหญ่ขึ้น ในบางคนอาจจะเห็นว่ามีติ่งเนื้อเร็วเช้นแระมาณ 2-3 อาทิตย์ แต่ในบางคน อาจจะเป็นเดือนๆ เช่นในกรณีของคุณ รีบหาหมอเพื่อจี้ให้หลุด ไม่เช่นนั้นอาจจะใหญ่ขึ้น และลสมไปติดที่บริเวณอื่นๆได้

G_Gu*****S

3 กรกฎาคม 2558 06:52:53 #5

ขอบคุณครับ คุณหมอ ไม่ทราบว่าใน กรุงเทพ มีโรงพยาบาลไหนที่มีเครื่องมือพร้อมในการรักษาบ้างครับ 

ปล. ผมมีประกันสังคมอยู่ที่ โรงพยาบาล**** ที่ถนนเพชรบุรี ตรงข้ามโรงพยาบาล****ครับ แต่ไม่มั่นใจว่ามีเครื่องมือในการรักษารึเปล่าครับ

ขอบคุณครับ

G_Gu*****S

6 กรกฎาคม 2558 02:00:18 #6

สวัสดีครับคุณหมอ ผมไปพบแพทย์เพื่อรักษาหูดหงอนไก่แล้วครับ ทางคุณหมอที่ผมไปรักษานั้นได้ให้ยาที่ชื่อ ซาลิโซลิก แอซิค มาทาตรงที่เป็นหูด หลังจากทาเสร็จแล้ว ผมรู้สึกมีการการเสบเล็กน้อยและมีอาการคันตรงที่ทายา ส่วนเมื่อเช้าที่ทายาไม่รู้สึกอาการแสบแล้ว แต่จะรู้สึก เย็นอ่อนๆ และยังมีความรู้คัน ตรงที่ทายาเหมือนเดิม ผมอยากทราบครับว่า อาการเหล่านี้เป็นอาการปกติของการทายาตัวนี้ใช่หรือเปล่าครับ

 

ขอบคุณครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

6 กรกฎาคม 2558 09:48:56 #7

การรักษาหูดหงอนไก่โดยการจี้ไฟฟ้าฟรือใช้เลเซอร์ ตาม รพ.ทั่วไปใน กทม. น่าจะมี รวมทั้ง รพ.เอกชนตามที่ถามมา อาจจะโทรศัพท์สอบถามดู แต่ไม่แน่ในว่าจะใช้สิทธิประกันสังคมได้หรือไม่ เพราะถือว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ถ้า รพ.รัฐบาล จะถูกกว่า เช่น จุฬา รามา ราชวิถี เป็นต้น