กระดานสุขภาพ

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน
Pink*****y

7 มิถุนายน 2558 03:27:58 #1

กินยาคุมฉุกเฉิน ภายใน 72 ชั่วโมง  (กินเม็ดแรก วันที่ 1 เม็ดที่สอง วันที่ 2) ถามแพทย์ ที่ขายยา เขาบอก ประจำเดือนปลอม จะมา ในวันที่ 6 - 7 ซึ่ง วันนี้ วันที่ 7  ประจำเดือนก็ยังไม่มา แต่อาการ เจ็มเต้านม ปวดท้องน้อย ยังมีเป็นช่วงๆ ช่วยในคำแนะนำในเรื่องนี้ทีค่ะ กลัวจะกลายเป็นแม่คน โดยไม่พร้อมน่ะค่ะ !!

อายุ: 17 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 45 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.58 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

9 มิถุนายน 2558 06:46:47 #2

เรียน คุณ pinkwinky,

โดยทั่วไปหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน อย่างถูกต้อง คือ รับประทานยาเม็ดแรกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 72 ชั่วโมง และรับประทานยาเม็ดที่สองหลังจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง จะมีเลือดออกมาหลังจากนั้น 7-10 วัน และต่อจากนั้นจึงจะมีประจำเดือนมา แต่อาจล่าช้ากว่าเดิม 7-14 วัน แต่จากข้อมูลของคุณ หากเลยกำหนดที่ควรมีประจำเดือน 7-14 วัน แนะนำให้ใช้อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์ เพื่อทดสอบว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ ส่วนเรื่องภาวะคัดตึงเต้านม ปวดท้องน้อย เป็นช่วง ๆ จะเกิดจากภาวะที่ร่างกายมีฮอร์โมนเพศเปลี่ยนแปลงไป

ขอแนะนำเพิ่มเติม การใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น ทางการแพทย์จะใช้ต่อเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น ได้แก่ ถูกข่มขืน หรือเมื่อถุงยางอนามัยฉีกขาด รั่วซึม เนื่องจาก

- ปริมาณฮอร์โมนเพศสูงมาก คือ 1,500 ไมโครกรัม เทียบกับชนิดปกติ คือ 50-75 ไมโครกรัม

- อัตราเสี่ยงในการล้มเหลวในการคุมกำเนิด ค่อนข้างสูง คือ 8-15 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับชนิดปกติ คือ น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ (ถ้าใช้ยาอย่างถูกต้อง ไม่ลืมรับประทานยา)

- อัตราเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่ออวัยวะต่าง ๆสูงกว่า การรับประทานยาคุมกำเนิดปกติ ที่พบได้บ่อย คือ มะเร็งสมอง มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก/รังไข่ หรือมะเร็งตับ เป็นต้น โดยจะพบมากในผู้ที่รับประทานยามากเกินกว่า "3 กล่อง ตลอดชีวิต"

ดังนั้นในส่วนของคุณ หากมีความจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้ใช้การสวมถุงยางอนามัย จะเหมาะสมกว่านะครับ นอกจากช่วยเรื่องคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน เริม พยาธิในช่องคลอด ไวรัสตับอักเสบ ชนิดบี/ซี หรือโชคร้ายสุดคือไวรัสเอชไอวี ที่ทำให้เกิดโรคเอดส์ที่ปัจจุบันยังไม่มีทางรักษาให้หายขาด

นอกจากนี้ยังช่วยปอ้งกันไวรัสเอชพีวี (HPV - Human Papilloma Virus) ทีเป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในเพศหญิง หรือหูดหงอนไก่ / มะเร็งองคชาติในเพศชาย

หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา คุณสามารถสอบถามได้จากแพทย์คลินิก/เภสัชกรร้านยาใกล้้บ้าน โดยต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อนเริ่มต้นการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ เนื่องจากหากใช้อย่างไม่ถูกต้องแล้ว อาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพถึงแก่ชีวิตได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ การคุมกำเนิด (Contraception) แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์