จากคำถามค่อนข้างสับสนนะครับ และ หมอไม่ทราบว่าเป้าหมายของคำถามดังกล่าวนั้น เพื่ออะไร ดังนั้น หมอขออธิบายดังนี้ครับ

ปกติผู้ชายจะสร้างอสุจิได้ตลอดจนอายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งการสร้างนั้นจะมีกระบวนการต่างๆใช้เวลาแต่ละรอบเพียงไม่กีสัปดาห์ และ จะเก็บไว้ก่อนจะมีการหลั่งออกมา ซึ่งการที่หลั่งออกมามากนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะสมบูรณ์พร้อมทุกตัวในการปฎิสนธิกับไข่ที่ตกมาเพียงฟองเดียวเท่านั้น จะมีเพียง 1 ตัวเท่านั้นที่จะปฎิสนธิได้จากการที่มีธรรมชาติจะมีกลไกที่ทำให้ไข่ใบนั้นไม่สามารถปฎิสนธิกับอสุจิตัวอื่นๆครับ การที่มีอสุจิมากๆ เพื่อเป้าหมายให้ได้ตัวอ่อนที่จะเกิดมาเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ที่สุด หากบังเอิญอสุจิ หรือ ไข่ที่ตกมาผิดปกติ ทำให้ตัวอ่อนผิดปกติไป จะมีกลไกธรรมชาติทำให้ตัวอ่อนนั้นไม่สามารถเจริญเติบโตต่อ ไม่สามารถฝังตัว หรือ หากฝังได้ก็อาจหลุดไป ที่เราอาจเห็นได้ที่เรียกว่า ภาวะแท้งครับ

ตามปกติตามธรรมชาติ การตกไข่ของรังไข่ผู้หญิง จะเกิดเดือนละ 1 ครั้งและครั้งละ 1 ฟองไข่เท่านั้นพร้อมกับการเจริญของเยื่อบุโพรงมดลูกเพื่อเตรียมความพร้อมต่อการฝังตัวอ่อน หากไม่ได้รับการปฎิสนธิ เยื่อบุโพรงมดลูกนี้จะหลุดลอกออกมาเป็นเลือดประจำเดือนครับ ซึ่งช่วงที่ตกไข่นั้น มักจะเกิดขึ้นกลางรอบเดือน โดยที่หากมีอสุจิอยู่ในโพรงมดลูกหรือท่อนำไข่ก่อนหน้าที่จะตกไข่ 2 วัน และ หลังตกไข่ 2 วัน ก็จะเป็นช่วงที่ปฎิสนธิได้ ดังนั้น ช่วงที่จะสามารถปฎิสนธิได้ต่อรอบการตกไข่มีเพียงประมาณ 4-5 วันเท่านั้นครับ หากมีเพศสัมพันธ์ช่วงอื่นๆ ก็ไม่สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ โดยอสุจิที่อยู่ตามท่อทางเดินปัสสาวะฝ่ายชายนั้น มีปริมาณเล็กน้อยครับ และ ตรงนี้หากมีการปัสสาวะตามมา ก็ทำให้อสุจิบริเวณนี้ไม่สามารถมีความสามารถได้การปฎิสนธิได้ครับ

หากสงสัยกรณีใด รบกวนสอบถามเพิ่มเติมครับ หมอจะพยายามอธิบายให้เข้าใจขึ้นครับ