กระดานสุขภาพ

ตอนนี้ผมมีเรื่องกังวลใจอยากจะทราบข้อมูลครับ
Autt*****m

31 พฤษภาคม 2558 19:48:17 #1

ผมอาบุ22 ปกติเวลามีเพศสัมพันธ์กันไม่ได้ใส่ถุงยางแต่ผมเลิกกับแฟนได้ระยะนึงแล้วหลังจากนั้นผมมีอาการแสบปลายอวัยวะเพศเวลาปัสสวะ ซึ่งลองปรึกษาทางบ้านกับเพื่อนๆให้ลองหาอ่านในอินเตอร์เน็ตแล้วรีบไปพบแพทย์ผมเจอโพสนึงพูดถึงหนองในจะกลายเป็นเอดส์ตอนนี้ผมไม่สบายใจอย่างมากพยายามคิดแง่ดีว่าเพราะนิสัยส่วนตัวรึป่าวผมเป็นคนไม่ค่อยปัสสวะบ่อยบางทีอั้นนานมากเพราะผมทำทัวร์อาจจะเปนเพราะข้อนี้หรือใช้ห้องน้ำตามสถานที่อื่นๆ ที่ปลายอวัยวะเพศผมมีเหมือนตุ่ม้ายๆสิวบีบแล้วเจ็บมีไขมันออกมาปนกับเลือดอันนี้น่ากังวลมั้ยครับเพราะผมเพิ่งจับไข้ได้สองสามวันเเล้วก็ไปอ่านเจอซิฟิลิสเลยัวเข้าไปอีก ผมขอรบกวนด้วยจริงครับไม่้าไปพบแพทย์

อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 85 กก. ส่วนสูง: 174ซม. ดัชนีมวลกาย : 28.08 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

2 มิถุนายน 2558 08:11:17 #2

โรคทางเดินปัสสวาะอักเสบมี 2 ชนิด คือชนิดที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีของคุณ ถ้ามีประวัติว่ามีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยาง ก็ถือว่ามีความเสี่ยง โรคที่พบได้บ่อย คือหนองในแท้ และหนองในเทียม หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไป หนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยง คือใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็อาจเกิดจากการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่นๆจะไม่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รักษาโดยการกินยาแก้อักเสบ เช่น ciprofloxacin ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น ประมาณ 1 อาทิตย์ ส่วนเรื่องเอดส์นั้น เกิดจากเชื้อไวรัส HIV ติดต่อทางเพศสัมพันธ์เหมือนกัน เพราะฉะนั้น คนที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จึงมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอดส์ด้วย ส่วนเรื่องซิฟิลิส เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย พบได้บ่อยขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จะมีโอกาสพบบ่อยกว่าชายทั่วไป แบ่งเป็น 1.แผลริมแข็งหรือระยะที่ 1 รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 2. ระยะที่ 2 มีอาการผื่นขึ้นตามตัวไม่คัน ผมร่วงเป็นต้น รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 3.ระยะแฝง ไม่มีอาการ รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต 3 ครั้งติดต่อกัน (อาทิตย์ละ 1 เข็ม) โดยสรุป ขึ้นกับพฤติกรรม แนะนำหาหมอครับ

 

นพ. อนุพงศ์