จากประวัติที่บอกมาถ้าคุณมีการคุมกำเนิดโดยการสวมถุงยางอนามัยตลอดก็ไม่ควรตั้งครรภ์ การทานยาคุมฉุกเฉินจะทำให้รอบเดือนมาไม่ปกติได้ เพราะตัวยาก็คือฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนขนาดสูงที่จะทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความผิดปกติจึงมีเลือดออกผิดปกติ และอาจจะส่งผลต่อการตกไข่ทำให้รอบเดือนมีความคลาดเคลื่อนได้ การใช้ยาคุมฉุกเฉินจะต้องไม่ใช้บ่อยครั้งมากเกินไป หรือไม่ควรเกิน 1-2 ครั้งต่อเดือน เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติหรือครรภ์นอกมดลูกได้ นอกจากนี้ การที่รอบเดือนมีความผิดปกติคือไม่มาเป็นเวลานานอาจจะมีสาเหตุมาจากการทำงานของรังไข่ที่ผิดปกติ เช่น ไข่ไม่ตก หรือเป็นกลุ่มอาการถุงน้ำที่รังไข่ PCOS (polycystic ovarian syndrome) จะพบในสตรีที่มีน้ำหนักตัวมากขึ้นในเวลาสั้นๆ เพราะจะกระทบต่อการตกไข่ สตรีที่มีอาการนี้จะมีผิวรังไข่ที่หนา ไข่ตกไม่ได้ และมีการสร้างฮอร์โมนแอนโดรเจนหรือฮอร์โมนเพศชายมาก จะทำให้มีสิวมาก หน้ามัน ขนดก มีหนวดเครา และไม่มีรอบเดือนมาตามปกติ ถ้ารอบเดือนไม่มานานเกิน 3 เดือนจะมีความเสี่ยงต่อมะเร็งผนังเยื่อบุโพรงมดลุกได้ เพราะผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความหนาตัวมากเกินไป ในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์แน่นอนก็ควรพบแพทยืเพือ่รับฮอรืโมนมาทานให้รอบเดือนมา ฮอร์โมนที่ใช้ได้แก่ โปรเจสโตรเจน หรืออาจจะปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาเพื่อซื้อยามาใช้ได้ ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด ถ้าไปพบแพทย์แพทย์อาจจะตรวจอัลตราซาวด์เพื่อประเมินรังไข่และมดลูกให้ด้วยค่ะ