กระดานสุขภาพ

รบกวนด้วยครับหมด ตอนนี้เครียดมากครับ
Anonymous

15 พฤษภาคม 2558 04:37:59 #1

รบกวนคุณหมอด้วยนะครับเนื่อวจากกระทู้เก่าผมอาจจะมาถามหมอช้าไปหมอเลยยังไม่ตอบ ข้อมูลส่วนใหญ่อยู่ที่กระทู้เก่าครับ

http://haamor.com/webboard/ห้องเพศศึกษา/21541/

วันที่16เมษายน ผมมีสัมพันธ์แบบไม่ได้สอดใส่กับแฟนครับ  แล้ววันนั้นผมได้ใช้นิ้วใส่ของแฟน(ขออภัยถ้าผมพิมพ์ไม่สุภาพครับ) แล้วเย็นวันนั้นแฟนผมก็มีประจำเดือนพอดี แบบนี้จะท้องไหมครับ แฟนผมมีประจำเดือนวันที่16 เมษายน แต่ประจำเดือนเป็นสีนำ้ตาลตอนวันที่19เมษายน แล้วหมดไปในวันที่22 เมษยน ก่อนหน้านี้แฟนผมก็มีการกินยาเลื่อนเมนด้วยครับ แล้วพอวันที่พอวันที่ 1 พฤษภาคม ก็มีเลือดใสๆเหมือนเป็นเมือกๆออกมาคับ แฟนผมจึงใส่ผ้าอนามัย พอเย็นวันที่ 1 ก้มีอะไรไม่รู้น้ำตาลๆออกมาคับ แล้วพอวันที่ 2 เลือดก็หายไปคับ แต่มีอะไรไม่รู้สีน้ำตาลออกมาอยู่คับ พึ่งผ่านไป 9-10 วันหลังจากมีพสพ. ไม่น่าจะเป็นประจำเดือนได้หนิคับ
แล้วเลือดที่ออกมาคือเลือดของอะไรคับ ใช่เลือดล้างหน้าเด็กรึป่าวคับ ?

ประจำเดือนแฟนผมน่าจะมาวันที่่14พฤษภาคมครับ แต่วันนี้แฟนผมประจำเดือนก็ยังไม่มา เพราะอะไรครับ 

อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 64 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.68 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

17 พฤษภาคม 2558 14:33:47 #2

คำว่า เลือดล้างหน้าเด็กนั้น (Implantation bleeding) ในทางการแพทย์คือ เลือดที่ออกจากการฝังตัวของตัวอ่อนที่เกิดจากการปฎิสนธิของอสุจิและไข่ บริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ในช่วงหลังตกไข่ประมาณ 1 สัปดาห์ หรือ หลังประจำเดือนรอบสุดท้ายประมาณ 3 สัปดาห์ ซึ่งจะเป็นเลือดออกจางๆ ปริมาณเล็กน้อย อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ผิดปกติอะไรครับ แต่ปัญหาอาจทำให้สับสนว่า เป็นเลือดประจำเดือนที่มาผิดปกติหรือไม่ ซึ่งการแยกอาจดูจากลักษณเลือดออก หรือ อาจตรวจปัสสาวะในช่วงวันที่ประจำเดือนขาดไปประมาณข่วง 4 สัปดาห์หลังประจำเดือนรอบสุดท้าย หากเป็นผลบวกหรือตั้งครรภ์ ก็ถือว่าเป็น เลือดล้างหน้าเด็กครับ ส่วนหากการมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีเพียงการถูกันเพียงภายนอกเท่านั้น ในกรณีนี้ถือว่า ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ เช่นเดียวกับอสุจิที่อยู่บริเวณภายนอกช่องคลอด ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์เช่นเดียวกันครับ สบายใจได้ ส่วนในเรื่องการสอดใส่นิ้วที่อาจมีอสุจิปนไปและใส่เข้าไปในช่องคลอดด้วยนั้น หากหมอตอบตามทฤษฎีแล้ว ในกรณีดังกล่าวก็สามารถทำให้มีการตั้งครรภ์ได้ แต่ในแง่ของหลักฐานทางการแพทย์นั้น ไม่เคยปรากฎมีการตั้งครรภ์จากลักษณะที่กล่าวมานะครับ

ส่วนลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ ไม่ควรไปทานยาอะไรก็ตามที่ต้องการให้มีเลือดประจำเดือนออกมาหรือเป็นการขับเลือดนะครับ เนื่องจากยาในกลุ่มนี้หากเป็นกลุ่มที่เป็นฮอร์โมน นอกจะไม่ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบดี ยังส่งผลต่อทำให้ประจำเดือนผิดปกติ อาจมามาก มากะปริดกะปรอย หรือ ขาดหายไปนาน และไม่มาตามรอบนะครับ

หมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ และ เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ

The_*****2

17 พฤษภาคม 2558 16:13:35 #3

ขอบคุณครับหมอ แต่ขอถามนะครับผมอยากรู้ว่าเลือดในวันที่1 พฤษภาคมมันเป็นเลือดจากอะไีครับ มีลักษณะเมือกๆใสๆ
The_*****2

17 พฤษภาคม 2558 16:18:53 #4

แล้วพอตกเย็นก็วันที่1พฤษภาคมก็มีอะไรไม่รู้สีนำ้ตาลๆออกมาคับ แล้วพอวันที่2พฤษภาคมมันก็หายไป
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

18 พฤษภาคม 2558 14:09:40 #5

อย่างที่หมอกล่าวไปนะครับ การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศนั้น ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ และเลือดที่ออกมานั้นเกิดจากยาในกลุ่มที่ทานไปเพื่อให้ประจำเดือนเลื่อไปนั้น น่าจะเป็นกลุ่มที่เป็นฮอร์โมนเป็นส่วนประกอบครับ ซึ่งจะมีเลือดผิดปกติออกหลังทานได้ หากทานไม่ถูกต้องครับ ซึ่งนอกจะไม่ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบดี ยังส่งผลต่อทำให้ประจำเดือนผิดปกติ อาจมามาก มากะปริดกะปรอยได้ครับ โดยรวมแล้วไม่ตั้งครรภ์นะครับ และ ให้สังเกตเรื่องรอบประจำเดือนก่อนได้ โดยที่ระหว่างนี้หากมีเพศสัมพันธ์ให้ใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีไปก่อนนะครับ

The_*****2

19 พฤษภาคม 2558 12:24:41 #6

ขอบคุณครับ วน.แฟนผมน่าจะประจำเดือนมาแล้วคับ แต่มาแค่กระปริดกระปรอย มาแค่ตอนเที่ยงถึงเย็น แล้วก้รุ้สึกว่าไม่มีอีกเลยคับ เป็นสีน้ำตาลเข้ม ดำๆครับ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ครับ
The_*****2

22 พฤษภาคม 2558 15:57:28 #7

ขอบคุณครับมากๆหมอตอนนี้แฟนผมประจำเดือนมาแล้วว หายเครียดสักที
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

24 พฤษภาคม 2558 16:12:47 #8

อย่างที่หมอกล่าวไปครับ ยาที่ทานทำให้เลือดมากะปริดกะปรอยได้ครับ ไม่ต้องกังวลครับ และให้สังเกตุอาการเรื่องประจำเดือนไว้นะครับ หากยังมาไม่เป็นรอบ ไม่สม่ำเสมอในรอบเดือนต่อๆไป หรือกะปริดกะปรอยบ่อย ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์ครับ