กระดานสุขภาพ

สงสัยอาการ
Anonymous

10 พฤษภาคม 2558 15:39:55 #1

คือ เรื่องมีอยู่ว่า อวัยวะเพศ เหมือนน่าจะถลอก แล้วเป็นแผลอ่า ครับ พออีกวันต่อมามีอาการบวม ตามรูปแรกที่ส่งให้เลยครับ เป็น บริเวณหนังหุ้มปลาย ซึ่ง เหตุการณ์ก่อนที่จะเป็นไม่แน่ใจว่า เกี่ยวกันหรือ ป่าว ก่อนเป็นผมได้ใช้สเปร์ย ช้างสาร เพื่อช่วยชะลอ การหลั่ง แต่วนนั้น ใช้แล้ว ไม่ได้มีการมีเพศสัมพันธ์กับแฟน แล้วก็ไม่ได้ทำการล้างออก ปล่อยทิ้งไว้จน อีกวัน จึงเริ่มรู้สึกมีอาการเจ็บๆ ที่อวัยวะเพศ ตอนแรก คิดว่า เด่วน่าจะหายไปเอง พอมาอีกวัน มีอาการบวมดังภาพแรก พอ ถัดมาอีกวัน มีอาการเพิ่มเติมคือ เหมือนจะเป็นตุ่มใสๆ ที่บริเวณหัวอวัยวะเพศ ตามรูปที่ 2 อย่างนี้ คือ เป็นโรคอะไร หรือป่าวครับ อันตรายไหมครับ มีวิธีการรักษาอย่างไร ควรงดอาหารอะไรไหม ควรงดกิจกรรมทางเพศไหมครับ ข้อคำตอบผ่านทาง เมล์นี้นะครับ ขอ แบบด่วนๆ กังวลมากเลย

http://haamor.com/media/images/webboardpics/d7679-22146.jpg

อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 167ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.65 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

11 พฤษภาคม 2558 14:05:18 #2

ดูจากรูปที่ส่งมาซึ่งมีรูปเดียว บริเวณส่วนหัวออกแดงและมีตุ่มพองใสๆ ถ้าคุณไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยาต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ รวมทั้งสเปรย์ที่คุณใช้ แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.1% ทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ถ้าไม่ดีขึ้นหรือไม่แน่ใจแนะนำหาหมอผิวหนังครับ แต่ถ้ามีความเสี่ยง เช่น มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง ก็อาจเป็นโรคติดต่อ ที่พบบ่อยคือเริม เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย

นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวดเสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ในกรณีของคุณ ขึ้นกับพฤติกรรมทางเพศ ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอครับ