กระดานสุขภาพ

ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์แต่ประจำเดือนมาไม่ปกติ
Anonymous

3 พฤษภาคม 2558 14:44:09 #1

สูงร้อย 155 น้ำหนัก 46 กินยาคุมกำเนิดมา 2 เดือน กุมภาและมีนา ของเมอซิลอน 21 เม็ด ประจำเดือนมาปกติทั้งสองเดือน ล่าสุดมีเพศสัมพันธ์เมื่อ 30 มีนา ไม่ได้ใส่ถุงยาง ประจำเดือนมาวันที่ 1-5 3 วันแรกเป็นสีแดงปกติมาเยอะพอสมควร หลังจากนั้นก็ไม่ได้กินยาคุมต่อแต่ก็ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีก เมื่อ 2 พฤษภา มีเลือดเป็นสีดำน้ำตาลเพียงเล็กน้อยเป็น 2 วัน เฉพาะกลางวันแต่ก่อนหน้านี้มีอาการเหมือนจะเป็นประจำเดือนปกติ อยากทราบว่าใช่ประจำเดือนมั้ย และที่เป็นไม่ปกติเพราะกินยาคุมไม่ต่อเนื่องรึป่าว
อายุ: 16 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 46 กก. ส่วนสูง: 155ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.15 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

12 พฤษภาคม 2558 04:32:54 #2

หากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดนั้นอยู่ในช่วงรอบเดือนที่ยังทานยาคุมกำเนิดกำเนิดอยู่ ก็ถือว่า ยาคุมกำเนิดรอบนั้น สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ส่วนเลือดที่ออกมานั้น หากตรงรอบหรืออยู่ในช่วงเดือนที่ควรจะมา ก็ถือว่าปกติครับ แม้จะมาค่อนข้างน้อยครับ เนื่องจากหลังจากหยุดยาคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน อาจยังไม่มีการตกไข่ในช่วง 1-3 เดือนแรกได้ อาจทำให้ประจำเดือนมาน้อย หรือ อาจไม่ตรงรอบเดิมได้ครับ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ควรคุมกำเนิดด้วยนะครับ เช่น ถุงยางอนามัย เป็นต้น และ หากประจำเดือนมาผิดปกติ ไม่เป็นรอบใน 2-3 เดือน ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุนะครับ

หมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ และ เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ