กระดานสุขภาพ

ไม่มั่นใจว่าจะท้องหรือเปล่า
Anonymous

30 เมษายน 2558 04:24:23 #1

คือ ปจด มาวันที่20 เมษา หมดวันที่25 แล้วมีอะไรกับแฟนวันที่27โดยสวมถุงยางอยามัย ไม่มีการรั่วหรือแตก โดยที่แฟนเสร็จในถุงยางแต่น้องชายยังอยู่ในน้องสาวอยู่ อยากทราบว่า1.จะท้องไหม ,แล้วผ่านมา4วันมีหบดๆสีน้ำตาลเปื้อนที่กางเกงใน2หยด อยากทราบว่ามันคืออะไรใช่เลือดล้างหน้าเด็กมั้ย คุนหมอช่วยตอบทีนะคะกังวลมากๆเลย
อายุ: 17 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 66 กก. ส่วนสูง: 172ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.31 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

4 พฤษภาคม 2558 07:48:51 #2

ในเรื่องความกังวลว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่นั้น หากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศทุกครั้ง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์ครับ ส่วนลักณะของสารน้ำที่สีน้ำตาลที่กล่าวมานั้น อาจเป็นเลือดที่เกิดจากผลของการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้มีเลือดออกมาในปริมาณน้อยๆและถูกสภาวะเป็นกรดในช่องคลอดทำให้สีคล้ำหรือออกเป็นสีน้ำตาลได้ครับ ซึ่งหมอคิดว่า สามารถสังเกตุอาการไปก่อนได้ เบื้องต้นไม่น่ากลัวอะไรและจะหายไปได้เองครับ สุดท้ายหมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ และ เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ

Anonymous

12 พฤษภาคม 2558 05:32:48 #3

ขอเพิ่มเติมนะคะ คือ ผ่านมา15วัน มันมีหยดสีน้ำตาลอีก1หยดอะคะ ซึ้งมันเป้นช่วงใก้ประจำเดือนจะมาอีกประมาน8วันจะมาอะคะ คือกังวลมากจะท้องมั้ยคะ
Anonymous

12 พฤษภาคม 2558 05:32:48 #4

ขอเพิ่มเติมนะคะ คือ ผ่านมา15วัน มันมีหยดสีน้ำตาลอีก1หยดอะคะ ซึ้งมันเป้นช่วงใก้ประจำเดือนจะมาอีกประมาน8วันจะมาอะคะ คือกังวลมากจะท้องมั้ยคะ