กระดานสุขภาพ

เครียดมาก "กลัวท้อง"
Anonymous

20 เมษายน 2558 17:08:28 #1

มีเพศสัมพันธ์กับแฟน เมื่อวันที่ 27 มีนา ไม่ได้หลั่งใน แต่ไม่ได้ป้องกัน 2 วันต่อมาทานยาคุมฉุกเฉินไปทีเดียว 2 เม็ด อาทิตย์นึงผ่านไป วันที่ 5 มีเลือดออกมา ตอนแรกคิดว่าประจำเดือนมาแล้ว จึงเริ่มแปะแผ่นยาคุมกำเนิด evra แต่เลือดออกน้อยมาก ผิดปกติ คือมาแต่ช่วงบ่าย แล้วมานิดเดียว มาแค่ 2 วัน (5-6) จากนั้นก็หาย จึงหาข้อมูลดู ก็เจอว่าอาจเป็นผลของยาคุม แต่แปะแผ่นevraไปแล้ว โชคดีที่เป็นวันอาทิตย์พอดีเลยนับปกติแล้วแปะต่อ ผ่านไป 2 วัน วันที่ 9 เมษา ได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนอีก ไม่ได้ใส่ถุงยางครั้งแรก แต่พอใกล้เสร็จแฟนเอามาใส่ แล้วหลั่งในถุงยาง แต่ครั้งต่อมาไม่ได้ใส่ถุงยาง และไม่ได้ทานยาคุมฉุกเฉิน ลองใช้แอพคำนวณระยะเวลารอบเดือน คือวันแรกที่มาครั้งล่าสุดคือ 17 มีนา หมด 20 หรือ 21 ไม่แน่ใจ (ประมาณ 4-5 วัน) รอบเดือนที่ควรมา คือวันที่ 14 เมษา ตอนนี้เลยมาแล้ว 6 วัน รอบเดือนยังไม่มา ไม่ทราบว่าเป็นผลของยาคุมทำให้รอบเดือนเลื่อน หรือเพราะอะไรยังไม่มา กลัวท้องค่ะ แบบนี้จะท้องไหมคะ ตรวจครรภ์ได้เลยมั้ย ปล.ยังใช้แผ่นแปะคุมกำเนิดอยู่ เปลี่ยนตามกำหนดปกติ ตอนนี้แผ่นที่ 3 เปลี่ยนมาได้ 2 วันแล้วค่ะ
อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 78 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 31.24 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

21 เมษายน 2558 00:41:38 #2

อาการเพิ่มเติมค่ะ คือช่วงนี้จะถ่ายบ่อย เรอบ่อย ปวดเมื่อยเป็นบางครั้งอ่าค่ะ จะปวดท้องเกือบตลอดเวลา ประจำเดือนก็ยังไม่มา แบบนี้จะท้องมั้ยคะ
Anonymous

21 เมษายน 2558 00:56:18 #3

พอดีอ่านเจอเรื่องเลือดล้างหน้าเด็กอ่าค่ะ ไม่ทราบว่าที่มีเลือดออกมา 2 วัน เป็นเลือดจางๆสีออกน้ำตาลอ่าค่ะ ใช่เลือดล้างหน้าเด็กมั้ยคะ
Anonymous

22 เมษายน 2558 00:14:03 #4

ตรวจครรภ์แล้ว 2 ครั้ง ไม่ท้องค่ะ ไม่ทราบว่า ทำไมประจำเดือนถึงยังไม่มา แล้วสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาเกี่ยวกับยาคุมด้วยรึเปล่าคะ
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

27 เมษายน 2558 13:10:33 #5

ในการมีเพศสัมพันธ์ที่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ แม้สุดท้ายจะไม่ได้หลั่งด้านใน หรือ สอดใส่ก่อนที่จะใส่ถุงยางอนามัย ก็สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้นะครับ เนื่องจากในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์จะมีอสุจิออกมากับสารคัดหลั่งที่ออกมาในช่วงนี้ แม้ปริมาณอสุจิจะน้อย ก็สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ครับ ซึ่งการที่เช็ดนำ้อสุจิหลังมีเพศสัมพันธ์หรือก่อนสอดใส่ หรือ การไปปัสสาวะก่อนที่จะร่วมเพศ ก็ไม่ได้ช่วยทำให้การตั้งครรภ์น้อยลงหรือเป็นการลดปริมาณอสุจินะครับ เพราะ อสุจิจะออกมาช่วงที่มีอารมณ์ทางเพศและช่วงสอดใส่อวัยวะเพศ แม้จะยังไม่ได้หลั่งครับ ดังนั้นในการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันนั้น มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์แน่นอนครับ ซึ่งการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ครับ ซึ่งหากอยู่ในช่วง 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรทานยานี้นะครับ และ หากทานถูกต้อง ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะมีประสิทธิภาพประมาณ 89 - 92 % ครับ หรือหากจะเข้าใจง่ายๆ คือ ทานยานี้ 10 คน จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 9 คนครับ ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ และในช่วงนี้ก็ไม่ควรที่จะมีเพศสัมพันธ์ซ้ำไปอีก หรือ ไปแปะยาคุมกำเนิดนะครับ เพราะจะทำให้สับสนได้มากว่า เลือดที่ผิดปกติทั้งออกมากะปริดกะปรยอ หรือ เลือดที่ไม่มาตามรอบเกิดจากอะไรครับ

ดังนั้น ในช่วงนี้ หมอแนะนำให้เอาแผ่นยาคุมกำเนินออกก่อนครับ ซึ่งหมอคิดว่า วันนี้ก็น่าจะเกือบครบกำหนดพอดี และให้สังเกตประจำเดือน พร้อมกับตรวจการตั้งครรภ์ในช่วงที่เหมาะสม ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์นั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ หรือ หากสับสนว่าจะตรวจช่วงไหนดี ก็อาจตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมา หากปกติด้วยครับ หากประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปเกิน 2 สัปดาห์ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ ซึ่งคำว่า เลือดล้างหน้าเด็กนั้น (Implantation bleeding) ในทางการแพทย์คือ เลือดที่ออกจากการฝังตัวของตัวอ่อนที่เกิดจากการปฎิสนธิของอสุจิและไข่ บริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ในช่วงหลังตกไข่ประมาณ 1 สัปดาห์ หรือ หลังประจำเดือนรอบสุดท้ายประมาณ 3 สัปดาห์ ซึ่งจะเป็นเลือดออกจางๆ ปริมาณเล็กน้อย อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ผิดปกติอะไรครับ แต่ปัญหาอาจทำให้สับสนว่า เป็นเลือดประจำเดือนที่มาผิดปกติหรือไม่ ซึ่งการแยกอาจดูจากลักษณะเลือดออก หรือ อาจตรวจปัสสาวะในช่วงวันที่หมอกล่าวไปครับ หากเป็นผลบวกหรือตั้งครรภ์ ก็ถือว่าเป็น เลือดล้างหน้าเด็กครับ

หมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ