กระดานสุขภาพ
หนังอัณฑะแดง แสบ ถลอก และมีน้ำใสๆ | |
---|---|
24 มีนาคม 2558 09:14:44 #1 สวัสดีครับ ขอคำแนะนำเกี่ยวกับอาการครับ หนังอัณฑะแดง แสบ มีอาการวันที่ 23 มีนาคม พอวันนี้ 24 มีนาคม เริ่มถลอก และมีน้ำใสๆ ครับ เป็นประมาณ 2-3 จุด เวลาโดนจะแสบมากครับ ทั้งนี้ ผมมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย เมษา 57 ครับ
ทั้งนี้ วันนี้ผมไม่สะดวกไปพบแพทย์จริงๆ รบกวนขอรายชื่อยาหน่อยครับ ทั้งยาทา ยาทาน และราคาเฉลี่ยด้วยครับ จะได้เตรียมเงินไปได้พอ
มีรูปนะครับ แต่คิดว่าไม่น่าจะโพสต์ได้ ขอบคุณครับ http://haamor.com/media/images/webboardpics/catfish-21021-1.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/catfish-21021-2.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/catfish-21021-3.jpg |
|
อายุ: 35 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 85 กก. ส่วนสูง: 172ซม. ดัชนีมวลกาย : 28.73 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Haamor Admin(Admin) |
24 มีนาคม 2558 13:54:38 #2 ถึง คุณ catfish สามารถส่งรูปของคุณมาได้ที่ info@haamor.com ค่ะ โดยระบุชื่อ user ชื่อกระทู้ที่ตั้ง หรือแนบลิ๊งค์กระทู้มาค่ะ |
Catf*****h |
25 มีนาคม 2558 08:03:33 #3 ได้ส่งเมล์ไปแล้วครับ ที่ info@haamor.com ครับ ชื่อเมล์คือ "กระทู้หมายเลข 21021 : รูปแสดงอาการ - ID catfish |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
27 มีนาคม 2558 13:12:47 #4 ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นแผลตื้นๆ ที่บริเวณหนังของถุงอัณฑะ น่าจะเกิดจาก การแพ้หรือระคายเคืองสราที่ใช้ หรืออาจเกิดจากการแพ้ยา ลองนึกดูว่าก่อนเป็น มีกินยาหรือไม่ เช่น ยาชุด ยาแก้ไข้ แก้อักเสบ เป็นต้น ถ้ามีก็น่าจะมาจากการแพ้ยา ให้งดใช้สารต่างๆหรือยาที่สงสัยว่าจะแพ้ กินยาแก้แพ้ เช่น atarax ครั้งละ 10 มิลลิกรัม เช้า เย็น 7-14 วัน ล้างด้วยน้เกลือล้างแผลที่ซื้อตามร้านขายยา ซับเบาๆให้แห้ง ทายาแก้แพ้ เช่น triamcinolone 0.1% เช้าเย็น น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอผิวหนังครับ |
Catf*****h |
30 มีนาคม 2558 08:48:30 #5 ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ มาอัพเดทอาการครับ หลังจากที่โพสต์คำถามไปแล้ว ปรากฎว่า บริเวณที่แดงมีอาการลอกและมีน้ำใสๆ (น้ำเหลือง) คิดว่าเป็นหนัก จึงไปพบแพทย์ (คลินิกทั่วไป) ได้เบตาดีน และครีมขาวๆ (ไม่ทราบชื่อ) ใส่ในตลับมา พร้อมยาเม็ดอีก 2 ชนิด (ไม่ทราบชื่อเช่นกัน ชนิดหนึ่ง ทานครั้งละ 2 เม็ด เช้า-เย็น หลังอาหาร อีกชนิดหนึ่งทานครั้งละ 1 เม็ด 3 เวลาหลังอาหาร)
หลังจากได้ยาแล้วก็อาการก็ทรงอยู่ประมาณ 2 วัน (อังคาร-พุธ) พอวันพฤหัสแผลก็เริ่มแห้ง โดยจุดล่างแห้งก่อน แต่จุดบนค่อนข้างลึก (ระยะแรกมีเลือดออก) แห้งช้ามาก จนถึงวันนี้ยังแดงอยู่ หนังกำพร้าลอกออกหมด แต่วันศุกร์พบว่าบริเวณหนังหุ้มอวัยวะเพศมีอาการลอก และมีน้ำใสๆ (ไม่บวมแดง ข้ามไปลอกเลย) แต่จัดการทายา แล้วเพียงวันเดียวก็แห้ง
สรุป ตอนนี้ 1 อาทิตย์ แผล 3 จุด ด้านล่างแห้งตกสะเก็ดแล้ว ตรงกลางแผลใหญ่ยังแห้งไม่สนิท ยังแดงอยู่ มีอาการแสบเมื่อถูกกระทบแรงๆ ส่วนด้านบนแผลใหม่ แห้ง แดง แต่ไม่แสบ
พยายามจะไม่ลอกผิวหนังที่ตกสะเก็ดออก เพราะกลัวกินลึกเข้าหนังแท้อีก ปล่อยให้ลอกออกเอง ครีมสีขาวตอนนี้หมดแล้ว คาดว่าจะไปหาซื้อยาที่คุณหมอแนะนำข้างต้นมาใช้ทาต่อครับ |
Catf*****h |
30 มีนาคม 2558 08:51:50 #6 แต่ยังสงสัยเรื่องสาเหตุของการเกิดอาการอยู่ครับ เพราะก่อนหน้านั้นไม่มีทานยาอะไรทั้งสิ้น ไม่เคยทานวิตามิน กางเกงในซักประจำโดยใช้สบู่ตอนอาบน้ำทำมาตลอดชีวิต ไม่มีพฤติกรรมที่ผิดปกติจากชีวิตประจำวันใดๆ เลยครับ คุณหมอคาดว่าเกิดจากอะไรได้อีกครับ จะได้หาทางป้องกันได้ถูก |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
31 มีนาคม 2558 11:02:04 #7 จากที่เพิ่มเติมมา ว่าได้ไปรักษาและอาการเริ่มดีขึ้น สาเหตุน่าจะมาจากการแพ้ ส่วนจะแพ้อะไร เข่นสารที่ใช้หรือยาที่กิน ก็คงต้องสังเกตุดู เพราะถ้าไปสัมผัสหรือกินอีก ก็จะเป็นอีกและจะรุนแรงขึ้น |
Catf*****h