กระดานสุขภาพ

สวัสดีครับคุณหมอ กระผมมีเรื่องร้อนใจจะปรึกษาครับ คงเข็ดจนวันตาย T T
Golf*****1

14 มีนาคม 2558 09:45:10 #1

ก่อนอื่นขอเกริ่นนำ กระผมมีอะไรกับแฟนครั้งสุดท้ายวันที่ 20/2/2558 ซึ่งแฟนผมจะประจำเดือนมาวันที่ 28-3 ของทุกเดือน ไม่เกินนี้แน่นอนครับ แต่ผมกังวัลตรงที่ ผมไม่เคย"หลั่งในใส่แฟนกระผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ทุกครั้งที่มีอะไรกันก็จะมีต่อครัง้ที่สอง สาม สี่ โดยแค่ทำการเช็ดน้ำเชื่อออกจากปลายอวัยวะเท่านั้น" ผมกล้ามั่นใจไม่เคยพลาดข้างในเลย แต่พอดีประจำเดือนแฟนผมของเดือนมีนาคมนี้ยังไม่มา โดยกระผมทำการตรวจการตั้งครรถ์ทั้งหมด 3 ครั้ง ในวันที่ 4 มีนาคม(หลังประจำเดือนที่คาดว่าจะมา4วัน) วันที่8มีนาคม(หลังประจำเดือนที่คาดว่าจะมา8วัน) และสดๆร้อนๆคือเมื่อวาน วันที่13 มีนาคม ซึ่งถ้านับจากวันที่มีอะไรกันครั้งสุดท้าย น่าจะเกือบ20วันแล้ว หลังจากที่มีอะไรกัน ถ้านับจากสิ้นเดือนที่ประจำเดือนแฟนผมจะมาก็สัก12วันครับ ซึ่งผลตรวจออกมาทั้ง 3 อันได้ผลดังนี้ อันที่1ของครั้งที่1: ขึ้น1ขีดครับ อันที่2การตรวจครั้งที่2: ขึ้น1ขีดครับ และอันที่3ของการตรวจครั้งที่3: ขึ้น1ขีดครับ แต่มา ณ จนวันนี้ แฟนกระผมประจำเดือนยังไม่มาเลยครับ ผมกังวลมากครับคุณหมอ แบบนี้จะท้องมั้ยครับ ผมกะจะพาแฟนไปพบแพทย์หลังจากรอสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ด้วยหวังว่าประจำเดือนจะมา หรือว่าแฟนผมตั้งครรถ์โดยที่ๆตรวจไม่พบครับ รบกวนไขข้อข้องใจด้วยครับ ถ้าแฟนผมไม่ท้อง ผมจะพาแฟนไปพบคุณหมอครับ หายาปรับฮอร์โมนมากิน ลืมบอกไปครับ แฟนผมสอบต้นเดือนด้วย วันที่1มีนาคมไล่มาเลย ความเครียดเกี่ยวมั้ยครับที่ทำให้ประจำเดือนไม่มา หรือแฟนผมท้องครับ แล้วแฟนผมมีทานยาสตรีเพนพาทด้วยครับ(สะกดไม่ถูก ขออภัยครับ) มันก็ยังไม่มาเลยครับ คุณหมอ แต่แฟนผมไม่มีอาการคนท้องเลยครับ ไม่เจ็บหัวนม ไม่อะไรทั้วสิ้นครับ ได้คำตอบยังไงผมจะขอก๊อปปี้คำตอบของคุณหมอไปให้แฟนอ่านนะครับ ผมและแฟนกังวลมากๆครับ ขอโทษด้วยนะครับที่มารบกวนเวลาอันมีค่าของคุณหมอ แต่กระผมไม่มั่นใจเลยครับ อยากให้ประจำเดือนของแฟนมาไวๆครับ 

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 45 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.03 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

19 มีนาคม 2558 07:20:39 #2

หมอขอให้คำแนะนำตามนี้นะครับ โดยปกติแล้ว หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น มีการสอดใส่อวัยวะเพศ แล้วไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ แม้สุดท้ายจะไม่ได้หลั่งด้านในก็สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ครับ เนื่องจากในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์จะมีอสุจิออกมากับสารคัดหลั่งที่ออกมาในช่วงนี้ แม้ปริมาณอสุจิจะน้อย ก็สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ครับ ซึ่งการที่เช็ดนำ้อสุจิหลังมีเพศสัมพันธ์หรือก่อนสอดใส่ หรือ การไปปัสสาวะก่อนที่จะร่วมเพศ ก็ไม่ได้ช่วยทำให้การตั้งครรภ์น้อยลงหรือเป็นการลดปริมาณอสุจินะครับ เพราะ อสุจิจะออกมาช่วงที่มีอารมณ์ทางเพศและช่วงสอดใส่อวัยวะเพศ แม้จะยังไม่ได้หลั่งครับ ดังนั้นในการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันนั้น มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์แน่นอนครับ ซึ่งการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ครับ ซึ่งหากอยู่ในช่วง 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรทานยานี้นะครับ แต่หากไม่ได้ทานก็ไม่เป็นอะไรนะครับ แต่อย่างไรก็ตามก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ หรือ หากสับสนว่าจะตรวจช่วงไหนดี ก็อาจตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมา หากปกติด้วยครับ

ซึ่งหากตรวจการตั้งครรภ์ในช่วงที่หมอกล่าวไปแล้วนั้น ผลออกมาปกติไม่ตั้งครรภ์ ลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

ส่ิงที่หมอฝากได้คือ การป้องกันการตั้งครรภ์นั้น ควรใช้วิธีที่ป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย หรือ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้น ซึ่งหมอขอแนะนำการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องสักนิดนะครับ ซึ่งมีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครัน ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ