กระดานสุขภาพ

คันที่อวัยวะเพศครับ
Anonymous

4 มีนาคม 2558 09:04:02 #1

สวัสดีครับคุณหมอ

 ผมมีอาการคันที่บริเวณปลายอวัยวะเพศกับท่อปัสสาวะ มีอาการแสบๆ เวลาปัสสาวะนิดหน่อย เป็นมาประมาณ 3-4 สัปดาห์แล้วครับ บางทีก็มีตุ่มแดงๆบริเวณปลายอวัยะเพศ แล้วก็หายไป บางทีก็ไม่คัน ก่อนหน้าที่จะมีอาการได้มีเพศสัมพันธ์ 2 ครั้ง แต่สวมถุงยางทั้ง 2 ครั้งครับ ไม่ทราบว่าอาการแบบนี้เข้าข่ายเป็นโรคอะไรครับคุณหมอ แล้วมีแนวทางรักษาอย่างไรครับ ผมแนบรูปมาให้ดูด้วยครับ ขอบพระคุณมากครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/55e1c-20448-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/55e1c-20448-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/55e1c-20448-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/55e1c-20448-4.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/55e1c-20448-5.jpg

อายุ: 27 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 95 กก. ส่วนสูง: 178ซม. ดัชนีมวลกาย : 29.98 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

5 มีนาคม 2558 13:49:36 #2

ดูจากรูปเห็นเป็ผื่นแดงๆ หนังค่อนข้างแห้ง ถ้าใชัถุงยางก็ไม่เป็นโรคติดต่อ อาจเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ หรือสารหล่อลื่นในถุงยาง ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ห้ามใช้สบูยาเพราะจะแห้งมากขึ้น ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน

ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้ สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาด ง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี

ประโยชน์ ของการขลิบ คือ ทำความสะอาดง่ายไม่เกิดแผลเวลามีเพศสัมพันธ์และมีการวิจัยที่ทวีปแอฟริกาพบ ว่าการขลิบหนังหุ้มปลายช่วยลดการติดเชื้อเอดส์เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ขลิบ 40% แต่ ประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาเรื่องนี้

Anonymous

6 มีนาคม 2558 09:07:44 #3

สวัสดีครับคุณหมอ

ตามที่คุณหมอได้แนะนำข้างต้นให้ใช้ยาทาแก้แพ้+ยาทาฆ่าเชื้อรา ผมได้ซื้อยาทาฆ่าเชื้อรามาทา แต่ไม่ได้ใช้ยาทาแก้แพ้นะครับ หลังจากทายาฆ่าเชื้อราได้สักพัก เหมือนมีอาการปวดแสบๆบ้างเล็กน้อย แต่ว่าไม่คันนะครับ อาการแบบนี้เข้าข่ายว่าจะแพ้ยาหรือไม่ครับ แล้วผมควรจะปฏิบัติอย่างไรต่อไปดีครับ ขอบพระคุณครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

7 มีนาคม 2558 16:08:00 #4

ถ้าทายาแล้ว มีอาการแสบและเป็นมากขึ้น ก็มีโอกาสที่จะแพ้ส่วนผสมบางอย่างในยาทาได้ แต่ถ้าอาการแสบเป็นไม่มาก ก็ให้ทายาต่อ โดยทาบางๆ แต่ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำหาหมอผิวหนังครับ