กระดานสุขภาพ

อยากพบแพทย์ ป้องกันแล้ว ประจำเดือนไม่มา กลัวท้องค่ะ
Anonymous

22 กุมภาพันธ์ 2558 12:26:49 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูมีเรื่องจะรบกวนค่ะ ขอปรึกษาคุณหมอหน่อยนะค่ะ
คือแบบว่า หนูเป็นประจำเดือนเมื่อตอนธันวาคม 57 วันที่ 21-26 ธันวาคม 57 แล้วพอเดือนมกราคม58 ประจำเดือนหนูมาเร็วมาก มาวันที่ 13-16 มกราคม 58 และประมาณว่าวันอาทิตย์ที่ 18 กับวันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม 58 หนูมีเพศสัมพันกับแฟน แล้วต่อมา วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 58 ตอนบ่ายๆ หนูมีเพศสัมพันกับแฟนอีก แต่ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์กันหนูสวมถุงยางตลอด แล้วเช็คถุวยางทุกครั้ง ว่ามีการรั่วหรือป่าว??? ทุกอย่างโอเครค่ะ แต่แล้ววันนี้วันที่ 17 ประจำเดือนหนูก็ยังไม่มา แล้วคือเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 หลังจากมีเพศสัมพันกัน ประมาณบ่าย 4 หนูก็ตรวจฉี่แบบการทดสอบแบบจุ่ม แต่ก็ไม่ได้จึ้นสองขีด แล้วก็มาวันนี้วันที่22กับเมื่อวาน21ก็มีเพศสัมพันธ์กันอีก(ถุงยางก็ใส่ เช็คแล้วปกติทุกอย่าง). แต่ ปจด ก็ยังไม่มาค่ะ อย่างนี้หนูต้องทำยังไงต่อดีค่ะ
รบกวนคุณหมอช่วยให้คำปรึกษาทีค่ะ
และปัจจุบันนี้ประจำเดือนก็ไม่มา เป็นเพราะอะไรหรอค่ะ แล้วหนูจะท้องไหม???

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 164ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.59 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

23 กุมภาพันธ์ 2558 15:30:41 #2

หากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศทุกครั้ง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์ครับ ส่วนลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

ซึ่งหมอขอแนะนำการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องสักนิดนะครับ ซึ่งมีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครัน ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ

Anonymous

24 กุมภาพันธ์ 2558 07:45:47 #3

เมื่อเช้าหนูตรวจปัสสาวะ ดูก็ขึ้นแค่ขีดเดียว... 

แต่ตอนนี้ ปจด ก็ยังไม่มาสักที นี่ก็จะ 9-10 วันแล้ววว กังวัลมากค่ะหมอ

Haamor Admin

(Admin)

26 กุมภาพันธ์ 2558 12:31:44 #4

อย่างที่หมอกล่าวไป หากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศทุกครั้ง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์ครับ และหากรอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 2-3 สัปดาห์ จากวันที่ควรจะมา ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุครับ