กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนไม่มา เพราะ?
Anonymous

21 กุมภาพันธ์ 2558 03:38:24 #1

ประจำเดือนมาล่าสุด 31 ธ.ค ถึง 4 ม.ค

มีเพศสัมพันธ์วันที่ 10 ม.ค โดยใส่ถุงยางอนามัย เช็คดูแล้วโดยการใส่น้ำ ไม่มีรอยรั่ว 

ประมาณวันที่ 1-3 กุมภา เริ่มมีตกขาวสีน้ำตาล คล้ายๆมีเลือดปน กลัวว่าจะท้องจึงตรวจการตั้งครรภ์ ขึ้น1ขีด แต่ประจำเดือนก็ยังไม่มา

หลังจากนั้นอีกไม่กี่วันก็ตรวจอีก 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ4-5วันก็ขึ้น 1ขีด

หนูเป็นคนนอนดึก เพราะทำงานหน้าคอมทุกวัน บางครั้งก็เครียดบ้าง แต่จะมาเครียดหนักๆก็ตอนปจด.ไม่มานี่แหละค่ะ

หนูเป็นคนที่รอบเดือนไม่สม่ำเสมอ มาช้า มาไม่ตรงวันกันซักเดือน อยากทราบว่าหนูจะท้องมั้ยคะ ที่ตรวจๆไปสบายใจได้รึยัง แล้วมีสิทธิ์มั้ยที่ที่ตรวจการตั้งครรภ์จะให้ผลผิดพลาด 

แล้วเพราะอะไรปจด.ถึงไม่มาซักที หนูเครียดมากค่ะ ไม่เป็นอันทำอะไรเลย กังวลไปหมด ช่วยตอบด้วยนะ

อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 57 กก. ส่วนสูง: 171ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.49 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

22 กุมภาพันธ์ 2558 17:27:03 #2

ถึง คุณ 5cdf5

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ 5cdf5 ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ 5cdf5 ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

23 กุมภาพันธ์ 2558 15:14:04 #3

หากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศทุกครั้ง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์ครับ ส่วนลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

ส่วนการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ หรือ หากสับสนว่าจะตรวจช่วงไหนดี ก็อาจตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมา หากปกติด้วยครับ แต่จากที่หมอกล่าวไป หากใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้อง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ครับ ซึ่งหมอขอแนะนำการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องสักนิดนะครับ ซึ่งมีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ