กระดานสุขภาพ

สอบถามเรื่องการมีประจำเดือนในช่วงตั้งครรภ์
Anonymous

16 กุมภาพันธ์ 2558 02:15:57 #1

สวัสดีครับ
ขออธิบายก่อนคือ ในวันที่ 29 ธค ปีที่ผ่านมาผมได้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางแต่ไม่ได้หลั่งข้างในกับแฟนสาวและแฟนได้กินยาคุมฉุภเฉิน เม็ดแรก 1 ชั่วโมงหลังมีอะไรกัน และเม็ดต่อไปนับไปประมาณ 12 ชั่วโมงพอดีๆ

ต่อมาเมื่อวันที่ 9 มค แฟนสาวได้มีประจำเดือน โดยที่ผมได้ถามและติดตามตลอดเวลา เธอยืนยันว่าประจำเดือนมีปริมาณปกติ เหมือนที่เคยเป็น

แต่ผมได้ไปค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ต่างๆ โดยที่ข้อมูลที่ได้นั้น ไม่รู้จริงเท็จอย่างไร
บางคนกลับบอกว่า ท้องก็มีประจำเดือนได้ ตรงจุดนี้ทำให้ผมนั้นกังวล
มาจนถึงวันนี้ วันที่ 16 กพ แฟนสาวยะังไม่มีประจำเดือนของเดือนนี้ ผมจึงยังกังวลๆอยู่
จึงอยากมาสอบถามและขอความรู้ครับ

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 42 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.41 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Dura*****l

16 กุมภาพันธ์ 2558 02:24:12 #2

และรวมถึงไม่มีอาการแพ้ท้อง หรือเลือดกระปริบกะปรอยแบบเลื้องล้างห้นาเด็กด้วยครับ

Haamor Admin

(Admin)

17 กุมภาพันธ์ 2558 13:46:04 #3

ถึง คุณ 44e6b

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ 44e6b ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ 44e6b ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

19 กุมภาพันธ์ 2558 15:59:25 #4

หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น มีการสอดใส่อวัยวะเพศ แล้วไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ แม้สุดท้ายจะไม่ได้หลั่งด้านในก็สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ครับ เนื่องจากในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์จะมีอสุจิออกมากับสารคัดหลั่งที่ออกมาในช่วงนี้ แม้ปริมาณอสุจิจะน้อย ก็สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ครับ ดังนั้นในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกที่ไม่ได้ป้องกันนั้น มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์แน่นอนครับ ซึ่งการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ครับ ซึ่งหากอยู่ในช่วง 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรทานยานี้นะครับ และ หากทานถูกต้อง ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะมีประสิทธิภาพประมาณ 89 - 92 % ครับ หรือหากจะเข้าใจง่ายๆ คือ ทานยานี้ 10 คน จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 9 คนครับ ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ ซึ่งจากวันที่ทานนั้น เกิน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์แล้วนั้นจะทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์น้อยลงมาก อย่างไรก็ตามก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ หรือ หากสับสนว่าจะตรวจช่วงไหนดี ก็อาจตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมา หากปกติด้วยครับ และ หากประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปเกิน 2 สัปดาห์ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

ส่ิงที่หมอฝากได้คือ การป้องกันการตั้งครรภ์นั้น ควรใช้วิธีที่ป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย หรือ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้น ซึ่งหมอขอแนะนำการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องสักนิดนะครับ ซึ่งมีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ

Anonymous

20 กุมภาพันธ์ 2558 09:24:23 #5

แล้วข้อมูลที่ผมได้เจอมาที่มีบางคนบอกว่า ตั้งครรภ์ ประจำเดือนก็มาได้หมายความว่าอย่างไรครับ ผมต้องการข้อเท็จจริงที่เป็นความรู้ แต่สิ่งที่หมอบอกผมมาเป็นเพียงแค่ ทฤษฎีของการกินยาคุมและการตั้งครรภ์ แต่ก็ไม่ได้ตอบคำถามเลย ข้อความที่หมอตอบผมเป็นเพียงข้อความที่ copy - paste หลายๆกระทู้เท่านั้นเอง..

Anonymous

20 กุมภาพันธ์ 2558 09:29:04 #6

และรวมทั้งผมก็ได้บอกแล้วว่าเธอมีประจำเดือนมา สรุปแล้วคุณหมอไม่ได้บอกผมอะไรมากกว่า มีโอกาสตั้งท้องได้ถ้าไม่ป้องกัน แล้วก็ตามด้วยว่าการกินยาคุมป้องกันได้...