การที่เป็นตุ่มหรือเป็นแผลที่บริเวณอวัยวะเพศ ถ้าไม่มีประวัติเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คิอยังไม่เคยร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ไม่ใช่โรคติดต่อ แผลที่พบอาจเป็น 1. การแพ้หรือระคายเคือง แล้วเกาจนเป็นแผล รักษาโดยการใช้ยาแก้แพ้ เช่น betamethasone ทา เช้าเย็น หรือ 2. แพ้ยากินบางชนิด เช่น ยาแก้อักเสบ ยาแก้ไข้ จะเริ่มด้วยเป็นตุ่มพองคล้ายน้ำร้อนลวกหรือแผลไฟไหม้ ต้องหยุดกินยาที่สงสัยว่าจะแพ้ทันที กินยาแก้แพ้ หรือในกรณีของคุณ อาจจะเกิดจกากการทีหนังหุ้มปลายยาวเกินไป หรือรูดเปิดไม่ได้ หรือ เปิดได้ไม่หมด หรือรัดมากเวลาอวัยวะแข็งตัว ทำให้เมื่อรูดแล้วมีการฉีกขาดเป็นแผล ให้ล้างด้วยน้ำเกลือล้างแผลที่ซื้อตามร้านขายยา ประมาณ 7-10 วันก็จะหายเมื่อหายแล้ว ควรให้แพทย์ระบบสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะตรวจว่าจะต้องขลิบหรือไม่

แต่ถ้ามีความเสี่ยง ก้อาจเป็นโรคติดต่อ ที่พบบ่อยคือเริมซึ่งสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง

โดยสรุป ขึ้นกับพฤติกรรม ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำหาหมอผิวหนังหรือกามโรคหรือส่งรูปถ่ายชัดๆมาให้ดูเพิ่มเติมและเล่าประวัติทางเพศสัมพันธุ์มาด้วยครับ