กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนมา 2 เดือนแล้ว มีโอกาสตั้งครรภ์มั้ยครับ
Anonymous

4 กุมภาพันธ์ 2558 15:20:26 #1

เริ่มแรก มีอะไรกับแฟนไม่ได้ป้องกัน แต่ทำได้ซักพักก็เอาออกมาใส่ถุงยางครับ แล้วก็ทำจนเสร็จ

แล้วทีนี้ ประจำเดือนแฟนไม่มา ประมาณ 2 เดือน ตั้งแต่เดือน ตุลา ปี 57 แล้วประจำเดือนก็มาครับ แต่มาไม่ปกติ คือมาน้อย ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจก็ขึ้น 1 ขีด แต่มีอยุ่วันนึงก็ไปซื้อมาตรวจอีกปรากฎว่าขึ้น 1 ขีด อีก 1 ขีดสีจางๆ ครับ แล้วพอซื้ออันใหม่มาตรวจก็ขึ้นแค่ 1ขีด 

ช่วงเดือนพฤศจิกายน 57 ก็ไปหาหมอที่ รพ ไปตรวจฉี่ที่ รพ ก็ไม่มีอะไรครับไม่ได้ท้อง หมอให้ยาปรับฮอร์โมนมากิน แล้วพอกินเสร็จหมอบอก ประจำเดือนจะมา แต่ก็มานะครับ มานิดเดียวสีเข็มๆ มาวันเดียว ละหลังจากนั้น ก็ไปหาหมออีกที หมอให้ยาคุมมากิน หมอบอกว่ากินแล้ว ประจำเดือนจะมา ถ้าไม่มาให้ไปหาหมอใหม่ แต่ประจำเดือนก็มา แต่มาไม่มาก

จนล่าสุดไปหาหมอมาเมื่อ ต้นเดือนมกราคม 58 เพราะหมอนัด หมอให้ยาคุมมากิน 3 - 4 แผง ผมจำไม่ค่อยได้ หมอบอก ห้ามลืมกินเด็ดขาด! ไม่งั้นอาจจะพลาดได้ ถ้ากินหมดแล้วก็ไม่ต้องมาหาหมออีก แต่แฟนผมดัดกินยาคุม ไม่ตามลูกศร คือมอง ลูกศรผิด แล้วยาคุมตัวนั้นน่าจะเป็นฮอร์โมนแต่ละเม้ดไม่เท่ากัน ผมกังวลมากครับ กินผิดไปหลายเม็ด แต่ก็กินต่อจนหมดแผง ตอนนี้พัก 7 วัน รอประจำเดือนมาอยู่ครับ (เม้ดสีเหลือง อีก 7 วันเม็ดสีขาว) ก็เมื่อวานก็เอาที่ตรวจครรภ์มาตรวจอีก มันขึ้น 1 ขีด ละอีก 1 ขีดมันจางมากๆ แต่แฟนผมไม่เชื่อ เพราะอันนั้นเอาตากแดดมา ซื้อไว้หลายเดือนแล้ว ก็ไปซื้อมาใหม่อีกอัน ตรวจก็ขึ้นแค่ 1 ขีด ตอนนี้ผมอยากรู้ว่าแฟนผมเป็นอะไรกัน ท้องรึป่าวครับ หรือไม่ท้อง (ไม่อยากให้ท้อง) 

แล้วถ้าอยากตรวจให้รู้ผลชัดเจน ควรตรวจแบบไหนครับ เจาะเลือดได้มั้ยหรืออัลตร้าซาว ขอบคุณหมอมากๆครับ

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 46 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.90 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

7 กุมภาพันธ์ 2558 11:20:46 #2

ในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งตั้งแต่ ตุลาคมนั้น หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น มีการสอดใส่อวัยวะเพศ แล้วไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ แม้สุดท้ายจะไม่ได้หลั่งด้านในก็สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ครับ เนื่องจากในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์จะมีอสุจิออกมากับสารคัดหลั่งที่ออกมาในช่วงนี้ แม้ปริมาณอสุจิจะน้อย ก็สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ครับ แต่หากการตรวจการตั้งครรภ์ก็ถือว่า ปกติครับ หากตั้งครรภ์จริงก็จะตรวจพบแล้วครับ ส่วนในเรื่องลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่จากประวัตินั้น มีการทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนเพื่อควบคุมรอบประจำเดือน แต่ทานอาจไม่ถูกต้องนั้น หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์ท่านนั้นนะครับ เพื่อจะได้วางแผนการรักษาต่อไป ส่วนในเรื่องการตั้งครรภ์นั้น หมอคิดว่า หากหลังจากเดือนมกราคม ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยง ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์นะครับ

การตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น เป็นการตรวจฮอร์โมน hCG ที่มีอยู่ในร่างกายที่ขับออกทางปัสสาวะครับ ซึ่งจะตรวจพบได้เร็วมาก คือ มีความแม่นยำสูงและไวมาก และ จะไม่ต่างกับการตรวจระดับในเลือดครับ ซึ่งการตรวจในเลือดจะมีประโยชน์ในบางกรณีเช่น ช่วยวินิฉัยภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก ช่วยวินิฉัยภาวะแท้งค้าง และ ประเมินการตั้งครรภ์ในการทำเด็กหลอดแก้วเป็นต้นครับ

สิ่งที่หมอฝากได้คือ การป้องกันการตั้งครรภ์นั้น ควรใช้วิธีที่ป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย หรือ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้น ซึ่งหมอขอแนะนำการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องสักนิดนะครับ ซึ่งมีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครัน ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ

Anonymous

9 กุมภาพันธ์ 2558 13:16:13 #3

หมอครับ ผมขอถามอีกคำถามนึงครับ 

เหตุเกิดเมื่อเดือน ตุลาคม 2557 จนตอนนี้ 9 กุมภาพันธ์ 2558 ในระหว่างเดือน ตุลา 57 - กุมภา 58 

มีประจำเดือนมาแล้วประมาณ 2- 3 เดือน มันยังเป็นไปได้มั้ยครับว่าจะท้อง หรือแทบไม่มีโอกาสเลย

แต่ตอน ต้นเดือนกุมภา พึ่งซื้อที่ตรวจครรภ์มา มันขึ้น 2 ขีดจางๆ จางมาก ผมกังวลตรงนี้อ่ะครับ