กระดานสุขภาพ

ทานยาคุมติดต่อกันมา5ปี แล้วหยุดทาน ปจด ไม่มา
Anonymous

29 มกราคม 2558 12:20:40 #1

สวัสดีค่ะ

เรื่องที่หนูอยากปรึกษามีอยู่ว่า หนูเริ่มทานยาคุมตั้งแต่อายุ 19 ปี จนมาถึงเมื่อเดือนธันวา57 หนูตั้งใจว่าจะหยุดทานยา เมื่อทานหมดแผงนั้น ประจำเดือนก็มาเป็นปกติ แต่เนื่องจากตั้งใจจะหยุดกินยาเลยไม่ได้ทานต่อ เวลามีเพศสัมพันธ์หลังจากหยุดยาคุมมาก็ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง แต่ตอนนี้ประจำเดือนหนูที่ควรจะมา ยังไม่มาเลย หนูก็เลยสงสัยว่าตัวหนูผิดปกติอะไรรึป่าว เนื่องจากทานยาคุมต่อเนื่องมานานหลายปีแล้วก็มาหยุดทาน ยังงัยรบกวนช่วยไขข้อข้องใจให้หนูด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

อายุ: 24 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 69 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.97 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

30 มกราคม 2558 12:02:48 #2

ถึง คุณ 51fbd

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ 51fbd ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ 51fbd ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

3 กุมภาพันธ์ 2558 15:06:45 #3

หากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศทุกครั้ง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์ครับ ส่วนสาเหตุที่ประจำเดือนมาไม่ตรงรอบ หรือ ไม่มาหลังจากหยุดยาคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนไปนั้น สาเหตุมักเกิดจากการที่การตกไข่หลังการใช้ยาฮอร์โมนเพื่อยับยังการตกไข่ที่เป็นกลไกหลักในการคุมกำเนิดของยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนยังไม่เกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นไม่สม่ำเสมอในช่วง 2-3 เดือนแรกหลังหยุดยา ซึ่งปกติแล้วหลังจากหยุดยาประมาณ 3 เดือนแล้ว ประจำเดือนมักจะต้องมาปกติแล้วหากไม่มีภาวะอื่นๆที่รบกวนการตกไข่ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ ดังนั้น หากประจำเดือนไม่มา ขาดหายไปเกิน 2-3 รอบประจำเดือน หรือ กะปริดกะปรอยมากก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

ซึ่งหมอขอแนะนำการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องสักนิดนะครับ ซึ่งมีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ

Anonymous

5 กุมภาพันธ์ 2558 14:57:51 #4

ขอบคุณมากๆค่ะคุณหมอ

ถ้าจะรบกวนสอบถามอีกเรื่องนึง ถ้าหนูจะกลับมารับประทานยาคุมต่อเหมือนเดิม จะเป็นอะไรมั๊ยถ้าหากทานติดต่อกันหลายปี

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

10 กุมภาพันธ์ 2558 14:00:22 #5

การคุมกำเนิดโดยใช้ยาคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนั้น ไม่มีผลเสียอะไรนะครับ แต่หากต้องการคุมกำเนิดที่ค่อนข้างนานกว่า 5 ปี หมอแนะนำให้ใช้การคุมกำเนิดอื่นๆ เช่น การฝังยา หรือ การใช้ห่วงอนามัยคุมกำเนิด จะเหมาะสมกว่าครับ