กระดานสุขภาพ

รู้สึกกังวลใจมากครับ เพราะเคยเป็นมาแล้วครั้งนึงครับ./oj
Anonymous

25 มกราคม 2558 13:38:25 #1

ผมเคยเป็นอาการดังกล่าวมาแล้วครับรุนแรงกว่าครั้งนี้คุณหมอแนะนำว่าเกิดจากการแพ้สารเคมี แต่ครั้งนี้ผมมีเพศสัมพันธ์กับแฟนโดยใส่ถุงยาง และอาการดังกล่าวก็กลับมาแต่ว่า คือผมไม่ได้ใช้สารเคมีล้างเลย ล้างผ่านน้ำเปล่าเฉยๆครับ ผมรู้สึกแสบๆที่อวัยวะเพศ เข้าห้องน้ำแล้้วถอกออกมาดูก็พบว่าเป็นแบบนี้ครับ อันตรายไหมครับแล้วมีวิธีที่ทำให้หายขาดเลยรึเปล่าครับ ขอบคุณคุณหมอมากน้ะครับ ขอบคุณครับ 

http://haamor.com/media/images/webboardpics/26e7a-19553.jpg

อายุ: 17 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 65 กก. ส่วนสูง: 167ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.31 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

25 มกราคม 2558 13:39:16 #2

http://upic.me/show/54391384

Haamor Admin

(Admin)

26 มกราคม 2558 04:33:54 #3

ถึง คุณ 26e7a

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ 26e7a ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ 26e7a ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

26 มกราคม 2558 15:41:39 #4

อาการที่เล่ามาและดูจากรูปที่ส่งมาน่าจะมาจากการที่หนังหุ้มปลายแพ้ ระคายเคืองสารที่ใช้ เช่น สบู่ยา ครีม เจลอาบน้ำ หรือสารหล่อลื่น เมื่อมีการเสียดสีจากการร่วมเพศ ร่วมกับความอับชื้น

แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ประโยชน์ของการขลิบ คือ ทำความสะอาดง่ายไม่เกิดแผลเวลามีเพศสัมพันธ์และมีการวิจัยที่ทวีปแอฟริกาพบ ว่าการขลิบหนังหุ้มปลายช่วยลดการติดเชื้อเอดส์เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ขลิบ 40% แต่ ประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาเรื่องนี้