กระดานสุขภาพ

อยากจะถามคุณหมอน่ะครับ สรุปแล้วที่ผมเป็นนี้คือหูดหงอกไก่ใช่ไหม
Anonymous

18 มกราคม 2558 00:55:59 #1

อยากจะสอบถามคุณหมอน่ะครับ ว่าที่ผมเป็น ณ ตอนนี้คือ หูดหงอกไก่ใช่หรือป่าวครับ ก่อนหน้านี้ผมได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลและคลีนิค ทางคลีนิคได้จี้ยาด้วย *** แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ ผมเป็นหูดเล้กๆ เต็มเลยน่ะครับ จนมันหลุดออกไปหมดแล้ว แต่มีหนึ่งอันที่เป็นติ่งเนื้อมีขนาดใหญ่น่ะครับ ไม่หลุดออกไปแล้ว ณ ตอนนี้ก็กินเวลามาเป็น เดือนแล้วละครับ ผมเข้ารักษาเมื่อวันที่ 16/12/57 น่ะครับ ผมควรจะทำยังไงครับ มีรูปมาให้ดูครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/67026-19371-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/67026-19371-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/67026-19371-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/67026-19371-4.jpg

อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 58 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.07 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

18 มกราคม 2558 01:11:43 #2

ลืมบอกน่ะครับ ทางโรงพยาบาลเขาได้ให้ยา *** มาใช้จี้เองที่บ้าน ผมก็ทำตามที่แพทย์สอนและสั่งมาน่ะครับ ใช้วาสลีนทาก่อน เมื่อจี้ยาเสดก็ใช้ผ้าก๊อตผิดเนื้อข้างๆไม่ให้ยาไปโดนน่ะครับ จนตอนนี้ ผมจี้จนยาหมดแล้ว มันก็ไม่หยุดละครับ ความถี่ที่ใช้ก็อาทิตย์ละ 1 ครั้ง บางอาทิตย์ก็ 2 แต่ไม่เกินจากนี้ครับ ขึ้นอยู่กับอาการ เช่น อาการเจ็บและปวดน่ะครับ รวมครั้งแล้วก็ตกประมาณ 5-6 ครั้งน่ะครับ ที่ใช้ยาตัวนี้จี้

 

 

Haamor Admin

(Admin)

18 มกราคม 2558 07:34:51 #3

ถึง คุณ 67026

เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ 67026 ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมค่ะ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

18 มกราคม 2558 13:47:41 #4

ดูจากรูปที่ส่งมา ไม่น่าจะเป็นหูดหงอนไก่ ก่อนอื่น ต้องเริ่มที่ประวัติ คุณน่าจะมีประวัติ เป็นชายรักร่วมเพศและมีการสอดใส่ทางทวารหนัก เท่าที่ดูจากรูปที่ส่งมา มีส่วนที่เป็นริดสีดวง และส่วนที่เป็นติ่งเนื้อซึ่งอาจจะเป็นอาการของซิฟิลิสระยะที่สอง ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายหูด แต่ไม่ใช่ แนะนำตรวจเลือดซิฟิลิส RPR หรือ VDRL ซึ่งจะให้ผลบวก นอกจากนี้ ควรตรวจเลือดเอดส์โดยใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทอง ประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจ เพราะจากข้อมูลการศึกษาพบว่าชายรักร่วมเพศมีโอกาสสูงที่จะติดเชื้อเอดส์และซิฟิลิส แต่ถ้าคุณไม่มีประวัติรักร่วมเพศ ก็อาจเป็นติ่งเนื้อที่เกิดจากริดสีดวง แนะนำหาหมอ หรือให้ข้อมูลทางเพศเพิ่มเติม

Anonymous

18 มกราคม 2558 14:44:39 #5

หากตรวจเลือดแล้ว พบว่าเป็นซิฟิซิส แต่ ไม่มีเชื้อ HIV ละครับ ผมต้องทำการรักษายังไงครับ

 

Anonymous

18 มกราคม 2558 14:55:08 #6

ถ้าผมไปตรวจแล้วไม่พบทั้งสองละครับ ทั้งซิฟิลิสและ HIV หมอพอจะสรุปได้ไหมครับว่ามันเป็นอะไร

 

พรุ่งนี้ผมจะไปตรวจครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

21 มกราคม 2558 13:57:16 #7

โรคซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จะมีโอกาสพบบ่อยกว่าชายทั่วไป แบ่งเป็น 1. แผลริมแข็งหรือระยะที่ 1 จะมีแผลที่บริเวณอวัยวะเพศ ขอบแผลแข็ง ไม่เจ็บ รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 2. ระยะที่ 2 มีอาการผื่นขึ้นตามตัวไม่คัน ผมร่วงเป็นต้น จะเป็นหลังระยะที่ 1ประมาณ 8 อาทิตย์ วินิจฉัยโดยการตรวจเลือด VDRL หรือ RPR รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 3.ระยะแฝง ไม่ีมีอาการวินิจฉัยโดยการตรวจเลnอด VDRL หรือ RPR ตรวจยืนยันโดยวิธี TPHA หรือ FTA abs รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต 3 ครั้งติดต่อกัน (อาทิตย์ละ 1 เข็ม) ในกรณีของคุณ ถ้าผลซิฟิลิสบวก จะเป็นระยะที่ 2 ซึ่งการรักษาไม่ว่าจะมีเชื้อเอดส?หรือไม่ ก็รักษาเหมือนกัน ส่วนถ้าไม่พบซิฟิลิส อาจจะเป็นแผลจากการที่เคยเป็นริดสีดวงก็ได้ แนะนำหาหมอด่วนครับ