กระดานสุขภาพ

รบกวนปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องยาคุม
Mali*****a

17 ธันวาคม 2557 10:50:09 #1

รบกวนสอบถามคุณหมอหน่อยค่ะ

คือดิฉันกินยาคุมยี่ห่อ** 21เม็ด ในวันที่30พฤษจิกามีประจำเดือน

ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ ในวันพุธจะครบกำหนดกินยาคุมแผงที่4แต่กินผิดคือกินเม็ดของวันพุธในวันอังคารแต่ขณะนั้นยังมีประจำเดือนอยู่ค่ะ ส่วนวันพุธก็กินของเม็ดวันอังคารแล้วก็กินมาเรื่อยๆทุกวันค่ะไม่เคยลืมกินอยากทราบว่ายาคุมยังจะมีประสิทธิภาพอยู่ไหมคะ  ประจำเดือนหมดวันที่ 4ธันวาคมค่ะในวันที่8ธันวามีเพศสัมพันธ์แต่ไม่ได้ใสถุงยางค่ะหลั่งข้างนอกค่ะ(ปกติจะกินยาคุมด้วยใส่ถุงยางร่วมด้วย)อยากทราบว่าดิฉันจะตั้งครรภ์ไหมคะ แล้ววันที่11ธันวามีตกขาวสีน้ำตาลอ่อนกลัวว่าจะเป็นเลือดล้างหน้าเด็กใช่หรือเปล่าคะแต่ดิฉันกินยาคุมทุกวันไม่เคยลืมแต่จะมีกินช้าบ้างแต่ไม่เคยเกิน1ชั่วโมงค่ะปัจจุบันมีอาการปัสสาวะบ่อยและคลื่นไส้แน่นท้องเบื่ออาหารปวดข้อเท้าและมือเท้าเย็น ไม่ทราบว่าเป็นอาการก่อนเป็นประจำเดือนหรือเปล่าคะเพราะก่อนเป็นประจำเดือนมักจะมีอาการแบบนี้ค่ะ และประจำเดือนจะมาในวันที่25ธันวาค่ะ รบกวนคุณหมอช่วยตอบคำถามหน่อยนะคะขอบคุณค่ะ

อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 42 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 15.43 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

17 ธันวาคม 2557 11:56:03 #2

ถึง คุณ Malika

เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ Malika ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมค่ะ

Mali*****a

17 ธันวาคม 2557 13:23:15 #3

ขอบคุณค่ะ admin

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

18 ธันวาคม 2557 04:59:19 #4

เรียน คุณ Malika,

เนื่องจากคุณให้ข้อมูลรายละเอียดมารวม ๆกัน ขออนุญาตตอบเป็นข้อ ๆนะครับ

- ยาคุมกำเนิดชนิด 21 เม็ด ที่คุณสอบถามมานั้น ตัวยาแต่ละเม็ดเหมือนกันครับ ดังนั้นจึงสามารถรับประทานยาเม็ดไหนก่อนก็ได้ เพียงแต่การรับประทานยาตรงตามวัน จะช่วยเตือนความจำ ป้องกันการลืมรับประทานยาได้ ดังนั้นหากรับประทานยาคุมกำเนิดถูกต้อง ไม่ลืมรับประทานยา ตัวยาก็จะมีประสิทธิภาพเหมือนเดิมครับ

- ในช่วงที่เว้นยา 7 วัน เป็นช่วงที่มีการฉีกขาด หลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก รังไข่ยังไม่มีการทำงาน ดังนั้นแม้จะมีเพศสัมพันธ์ โอกาสในการตั้งครรภ์น้อยมากนะครับ น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ เพียงแต่ถ้าเป็นช่วงที่ยังมีประจำเดือนหรือประจำเดือนเพิ่งหยุดไป จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อของโพรงมดลูก หรือติดเชื้อในท่อปัสสาวะของเพศชายได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เลือดล้างหน้าเด็ก แต่น่าจะเกิดจากการระคายเคืองเยื่อบุโพรงมดลูกมากกว่าครับ

- โดยทั่วไปหากรับประทานยาคุมกำเนิด ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ แต่หากคุณยังไม่แต่งงาน แนะนำให้ใช้วิธีการสวมถุงยางอนามัยจะได้ประโยชน์ในการคุมกำเนิดและป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ร่วมด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน เริม ไวรัสตับอักเสบ ชนิด บี หรือ ซี หรือโชคร้ายสุด คือ เอชไอวี ที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ที่ปัจจุบันยังไม่มีทางรักษา นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไวรัสเอชพีวี (HPV - Human Papilloma Virus) ที่เป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ในเพศหญิง หรือหูดหงอนไก่ / มะเร็งองคชาติในเพศชาย และคุณไม่จำเป็นต้องได้รับฮอร์โมนจากยาคุมกำเนิดโดยไม่จำเป็นอีกด้วย

- อาการผิดปกติเกี่ยวกับคลื่นไส้ แน่นท้อง ฯ หากคุณรับประทานยาได้อย่างถูกต้อง สม่ำเสมอ ไม่เคยลืมรับประทานยา ไม่น่าจะเป็นอาการของการตั้งครรภ์ครับ

ขอแนะนำเพิ่มเติม คือ ให้รับประทานยาในช่วงเวลาใกล้เคียงกันของทุกวัน +/- ไม่เกิน 1 ชั่วโมง, รับประทานยา "ทุกชนิด" ด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น ยกเว้นว่าแพทย์จะแนะนำเป็นอย่างอื่น เนืองจากเครื่องดื่มอื่น ๆจะทำให้ตัวยาตกตะกอน ลำไส้ไม่สามารถดูดซึมตัวยาได้ เช่น ชา (รวมถึงชาเขียว) กาแฟ โกโก้ นม(รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นมเปรี้ยว ไอศกรีม ฯ) น้ำเต้าหู้ น้ำอัดลม หรือน้ำแร่ หรือน้ำผลไม้บางชนิด เช่น น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล น้ำเกรปฟรุต หรือน้ำแครนเบอร์รี จะกระตุ้นให้เอนไซม์ในตับทำงานเร็วและมากขึ้น จึงกำจัดตัวยาคุมกำเนิดเร็วขึ้น ระดับยาในเลือดลดต่ำลง
จนเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้

- ไม่ควรซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ มาใช้ร่วมกัน โดยที่ยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร "ก่อน" เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา หรือที่เรียกง่าย ๆว่า "ยาตีกัน" จนทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ หรือการรักษาไม่ได้ผล เสี่ยงต่อสุขภาพ จนอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

  1. ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
  2. การคุมกำเนิด (Contraception)

โดยแพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
สูตินรีแพทย์