กระดานสุขภาพ

รอบเดือน
Tat*****t

4 ธันวาคม 2557 05:42:27 #1

แฟนผมมีรอยเดือนมาครั้งเเรก วันที่ 8/11/14 (เเต่ รอบเดือนนี้ มาช้ากว่ากำหนดเพราะ กินยาคุมฉุกเฉินไป รอบเดือนก่อนหน้า คือวันที่ 26/10/14 หมดประมานวันที่1/10 เเล้วมีการกินยาคุมฉุกเฉินไปในวันที่3/10 เเล้วหลังจากกินยาคุมฉุกเฉินไปประมาน5วัน เเฟนผม มีเลือกออกค่อนค้างเยอะ7-8 เเล้วรอบเดือนเลยมาช้ากว่ากำหนด คือวันที่8/11/14) เเล้ว มีเล่นกับ กับแฟนโดยไช้นิ้วช่วย ใน วันที่24/11 เเต่ไม่มีการสอดไส่ เเล้วก้อไม่เเน่ใจว่าที่นิ้วมีอสุจิอยู่หรือไม่ เพราะ ได้สัมผัสอวัยวะเพศของตัวเองตอนที่แฟนช่วยจนเสร็จเพื่อทำความสะอาดโดยกระดาษทิชชุ่ ก่อนนำนิวเข้าไป

อยากทราบว่า ถ้ามีอสุจิเลอะอยู่จริง จะมีโอกาศท้องไหมครับ     เเล้วถ้าหากไม่มีเเล้วเมนของเเฟนผมควรจะมาเมื่อไหร่ครับ

อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 68 กก. ส่วนสูง: 172ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.99 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

5 ธันวาคม 2557 11:39:27 #2

หากในการมีเพศสัมพันธ์นั้นไม่ได้คุมกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพ ก็สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้นะครับ ซึ่งการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ ซึ่งการทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์หลังการมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพประมาณ 89 - 92 % ครับ หรือหากจะเข้าใจง่ายๆ คือ ทานยานี้ 10 คน จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 9 คนครับ แต่จากประวัติที่กล่าวมา มีการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินซ้ำไปอีกนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำนะครับ เพราะ ปกติยานี้จะใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น และ จะผลข้างเคียงมากได้ ประกอบกับประสิทธิภาพจะไม่ดี และ ก็จะมีเลือดออกผิดปกติมาได้ จนทำให้สับสนได้ว่า เลือดที่ออกมาคืออะไร เช่นในกรณีนี้ครับ ดังนั้น ส่ิงที่หมอฝากได้คือ การป้องกันการตั้งครรภ์นั้น ควรใช้วิธีที่ป้องกันก่อนมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย หรือ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้น การใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น นอกจากประสิทธิภาพจะต่ำกว่าแล้ว ยังมีผลข้างเคียงมากกว่าอีกด้วยครับ ด้วยความหวังดีครับ

อย่างไรก็ตามก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้ยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ หรือ หากสับสนว่าจะตรวจช่วงไหนดี ก็อาจตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมา หากปกติด้วยครับ และ หากประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปเกิน 2 สัปดาห์ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

ส่วนในกรณีที่การมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีเพียงการถูกันเพียงภายนอกเท่านั้น ในกรณีนี้ถือว่า ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ เช่นเดียวกับอสุจิที่อยู่บริเวณภายนอกช่องคลอด ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์เช่นเดียวกันครับ สบายใจได้ ส่วนในเรื่องการสอดใส่นิ้วที่อาจมีอสุจิปนไปและใส่เข้าไปในช่องคลอดด้วยนั้น หากหมอตอบตามทฤษฎีแล้ว ในกรณีดังกล่าวก็สามารถทำให้มีการตั้งครรภ์ได้ แต่ในแง่ของหลักฐานทางการแพทย์นั้น ไม่เคยปรากฎมีการตั้งครรภ์จากลักษณะที่กล่าวมานะครับ

Tat*****t

8 ธันวาคม 2557 12:04:09 #3

คุณหมอครับ

เเล้วถ้าเกิดว่าไม่ได้ท้องจริงๆ เเล้ว ปจดควรจะมาเมื่อไหร่ค้ะ เพราะรอบเดือนของเดือนก่อ วันที่ 8/11 มัน เปนวันที่ 26/9 ซึ่งมันเลื่อนออกมามาก จน ตอนนี้ปจด ยังไม่มา เเล้วไม่รุ้ว่าท้องหรือไม่ เเล้ว ถ้ามไม่ท้อง ควรจะมาเมื่อไหร่ เเล้ว อยากทราบว่า ที่ ปจดมันเลื่อนออกมามากขนาดนี้มีผลต่อปจดรอบที่กำลังจะมารึปล่าว เพราะตอนนี้ ปจดยังไม่มา นี่ก็วันที่8 เเล้ว กังวลมากค่ะ ช่วยหนุด้วยน้ะค้ะ 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

13 ธันวาคม 2557 13:27:10 #4

โดยปกติแล้วหลังจากที่ทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินไป จะทำให้รอบประเดือนไม่มาตามรอบได้ตามที่หมอกล่าวไป แต่มักจะไม่เกิน 2 สัปดาห์ครับ ดังนั้น หากตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะแล้วปกติ และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 2-3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ