กระดานสุขภาพ

มี พสพ ตอนมีประจำเดือนใส่ถุงจะท้องไหม
Anonymous

3 ธันวาคม 2557 10:09:22 #1

คือแฟนมีประจำเดือนวันที่ 26/11/57  พอมาคือวันที่ 29/11/57 ตแนประมาณ 5 ทุ่ม มี เพศสัมพัน

โดยระหว่าง มี พสพ ใส่ถุงยางตลอด 3  ครั้ง  ใส่ถุงตลอด  แตก นอก 2 ครั้ง ส่วนอีกหนึ่งครั้งไม่แตก แต่เปลี่ยนถุงยาง

โดยทั้งสามครั้งนั้น  ลองเช็คถุงยางทั้ง 3 อันแล้ว  โดยการใส่น้ำแล้ว บีบ ดู

ไม่มีถุงยางอันไหนแตก แถมตอนผมหลั่งทั้งสองครั้ง ผมเอาออกมาหลั่งข้างนอก ทั้งสองครั้ง โดยการเอามือชักเอาตอนใกล้จะเส็ดด

แล้วหลังจากนั้น แฟนก้มีประจำเดือนมากระปิดกระปรอยจนหมดวันที่ 1 /12/57

คืออยากถามว่า

1. ผมมี พสพ. สัมพันในช่วงปลอดภัยหรือเปล่า ปกติแฟนประจำเดือนมาไม่ปกติ จะ มีทุกๆ 30 - 35 วันขึ้นไปบางเดือนจะนานกว่านัน

2. วิธีการเช็คถุงยางของผมถูกต้องหรือเปล่าที่ลองเอาน้ำใส่แล้วไม่มีรั่วหรือซึม

3. โอกาศที่แฟนผมจะท้องมีไหม

4. 3-4 เดือนที่แล้วเกือบทุกเดือน จะให้แฟนกินยาคุมฉุกเฉินเพราะผมกับแฟนแค่ถูๆไถแต่วิตก เลยให้กินยาคุมฉุกเฉิน

จึงเป็นเหตุที่ทำให้แฟนประจำเดือนมาไม่ปกติหรือเปล่า

 

อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.22 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

3 ธันวาคม 2557 16:56:14 #2

ถึง คุณ 34941

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ 34941 ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ 34941 ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

4 ธันวาคม 2557 16:35:03 #3

หมอขอตอบเป็นประเด็นดังนี้นะครับ
1. หากเดิมเป็นคนที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ตรงรอบดี วันที่มีเพศสัมพันธ์นั้นอยู่ในช่วงหลัง 7 วันหลังจากมีประจำเดือนวันแรก ซึ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ไม่มีการตกไข่ หากมีเพศสัมพันธ์ช่วงนี้ จะไม่ทำให้ตั้งครรภ์ครับ แต่หากมีช่วงที่มีประจำเดือนพอดี จะทำให้ฝ่ายหญิงมีโอกาสที่จะติดเชื้อหรือมีการอักเสบในอุ้งเชิงกรานได้ง่าย เนื่องจากในช่วงนี้เยื่อบุโพรงมดลูกกำลังลอกตัวออกมา ทำให้มีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ง่ายครับ ดังนั้น หมอคิดว่า ควรให้ประจำเดือนน้อยลงเสียก่อน เช่น ให้พ้น 2-3 วันหลังประจำเดือนวันแรกไปก่อน และ ไม่จำเป็นต้องทานยาอะไรเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์หรือโรคอะไรนะครับ

2. หากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศทุกครั้ง ไม่ว่าจหลั่งด้านนอกหรือด้านในช่องคลอด ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งครรภ์ครับ

3. ส่วนสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่ตรงรอบ ไม่สม่ำเสมอ กะปริดกะปรอยนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้ มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ ซึ่งยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็เป็นสาเหตุได้อย่างแน่นอนครับ ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ

สุดท้าย หมอขอแนะนำการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องสักนิดนะครับ ซึ่งมีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ