กระดานสุขภาพ

ปวดศีรษะก่อนมีประจำเดือน
Ruji*****r

4 พฤศจิกายน 2555 01:25:47 #1

มีอาการปวดศีรษะก่อนมีประจำเดือน ปวด2-3 วัน ทานยาแก้ปวดก็หาย แต่ช่วงหลังๆไม่อยากทานยา ปล่อยให้หายปวดเอง ไม่ทราบว่า อาการแบบนี้ผิดปกติหรือเปล่า แล้ว มีวิธีการป้องกันหรือว่าแก้ไขหรือเปล่า ขอบคุณค่ะ

อายุ: 33 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ดัชนีมวลกาย : 0.00 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

4 พฤศจิกายน 2555 08:52:44 #2

อาการปวดศรีษะก่อนมีประจำเดือนนั้นพบได้บ่อบ อาจเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดืิอนครับ แต่ถ้าหากอาการเป็นมากจนรบกวนชีวิตประจำวันก็ควรจะรักษาครับ ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนของกลุ่มอาการนี้ สาเหตุทางการแพทย์เชื่อว่าเกิดการทำงานระหว่างสมอง สารสื่อประสาทในสมอง และฮอร์โมนจากรังไข่ไม่สมดุลกัน รวมไปถึงปัจจัยทางด้านพันธุกรรม ระบบภูมิคุ้มกัน ปัจจัยทางร่างกาย เช่น อาจเกิดจากความเครียด กังวล สภาพอากาศร้อน หนาวมากเกินไป หรือ อาหารบางชนิด เช่น ชา กาแฟ นมวัว และ ผลิตภัณฑ์จากนมวัวครับ

กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนนั้นจะมีทั้งกลุ่มอาการทางกาย พฤติกรรม และอารมณ์ ที่สัมพันธ์กับช่วงก่อนมีประจำเดือน ยกตัวอย่างเช่น

  • อาการคัดตึงเต้านม
  • ปวดหรือเวียนศีรษะมาก
  • ปวดท้องประจำเดือนมาก
  • ตัวอืดบวม น้ำหนักเพิ่ม ท้องอืด แน่นท้อง รู้สึกอยากรับประทานมากขึ้น
  • นอนไม่หลับ ไวต่อเสียงและกลิ่นแปลกๆ
  • รู้สึกอ่อนเพลีย สมาธิสั้น กระวนกระวาย หงุดหงิดง่าย วิตกกังวล ซึมเศร้า อารมณ์ไม่มั่นคง โกรธง่าย อาจร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล เป็นต้น

 

โดยอาการดังกล่าวอาจจะอยู่ในระดับไม่รุนแรงถึงรุนแรงปานกลาง แต่จะดีขึ้นและหมดไปภายหลังจากที่ประจำเดือนมา
สิ่งที่อาจทำให้อาการดังกล่าวน้อยลง เช่น

  1. การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ด้วยการหลีกเลี่ยงของหวาน กาแฟ บุหรี่ สุรา ข็อกโกแลต น้ำอัดลม หรืออาหารที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน หันมารับประทานผักสด ผลไม้ ธัญพืช และลดอาหารที่มีส่วนผสมของ นมวัว ไขมันสัตว์ สูงๆ

  2. ออกกำลังกาย สม่ำเสมอวันละ 30 นาที แต่ไม่หนักจนเกินไป

  3. พยายามไม่เครียด กังวล นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียดด้วยวิธีการต่างๆ หรืออาจจะใช้วิธีนั่งสมาธิ

  4. มีการรายงานว่า รับประทานแคลเซียมวันละ 1200 มิลลิกรัม จะช่วยลดอาการได้

 

หมอแนะนำประมาณนี้ก่อนนะครับ ลองปรับเปลี่ยนดู ถ้าหากไม่ดีขึ้น อาจต้องใช้การรักษาด้วยยา แต่ก็ควรจะไปปรึกษาสูตินรีแพทย์ก่อนนะครับ