กระดานสุขภาพ

กลุ้มใจมากคะ เปนประมาณ 2เดือนได้แล้ว
Anonymous

3 พฤศจิกายน 2555 09:15:00 #1

สวัสดีคะ...คือว่ามีเรื่องอยากจะปรึกษาหน่อยคะ..

    หนูมีปัญหาเรื่องตกขาว ที่มีลักษณะเปนเมือกสีใสขุ่นเหมือน น้ำมูกคนเปนหวัด...

 แต่ที่เปลื้อนติด กกน. มันเปนสีเหลืองออกเขียว มีกลิ่นคาวเล็กน้อย

มีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดเปนบางครั้ง

ตอนแรกหนูเข้าใจว่าเปนตกขาวปกติ แต่พอสังเกต หนูเปนตลอดทั้งเดือน

แม้แต่เปนประจำเดือนก็ยังไม่หาย แค่เปลี่ยนสีจากเมือกใสขุ่นเปนเมือกสีแดงเลือด...

แต่ประจำเดือนก็มาปกติคะ เพราะกินยาคุม 28 ยอมรับคะว่าเคยมีอะไรกับแฟน

แต่ก็อยากทราบคะว่าเกิดจากสาเหตุอะไร...???

เคยอ่านเจอในเว็บ...จะเกี่ยวกับพวก แบคทีเรีย เชื้อราหรือว่า พยาธิ อะไรพวกนี้รึเปล่าคะ!!!

หรือว่านอกเหนือจากนี้คะ...???

รบกวนหน่อยนะคะ...ขอบคุณคะ :)

อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 45 กก. ดัชนีมวลกาย : 0.00 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

5 พฤศจิกายน 2555 03:06:32 #2

จากอาการตกขาว หากอาการคันค่อนข้างเด่น และ มีกลิ่นอับๆ ส่วนใหญ่สาเหตุเกิดจากเชื้อราครับ บางครั้งอาจเป็นบริเวณแคมด้วย ก็จะมีอาการคันด้านนอก เป็นผื่นแดงๆได้ การรักษาหลักคือการเหน็บยาทางช่องคลอด และทายาบริเวณด้านนอก รักษาความสะอาด ปัสสวะหรือเข้าห้องน้ำแล้วควรซับให้แห้ง อย่าปล่อยให้อับชื้นครับ แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ตกขาวกลิ่นเหม็นมากขึ้น ปวดท้องน้อย มีไข้ ควรมาพบสูตินรีแพทย์นะครับ

Book*****y

5 พฤศจิกายน 2555 19:23:26 #3

ที่คุณหมอบอกว่า...การเหน็บยาทางช่องคลอด และทายาบริเวณด้านนอก หนูทำแล้วคะ

คือว่าหนูมีอะไรกะแฟน แล้ววันต่อมารู้สึก คันภายในก้เลยไปซื้อยา คาเน็ตเทนแบบสอด 1 เม็ดมาแล้วก้ยา phoebus cream ยาทาภายนอกมาทา อาการคันก็ลดลง แต่ตกขาวก็เริ่มเปนสีเหลืองหลังจากวันที่สอดยา ประมาณปลายเดือนกันยา จนถึงปัจจุบัน

หนูพยายามรักษาความสะอาดแล้วนะคะ...แต่ตกขาวก็ยังออกมาเปนแบบเดิม ยิ่งช่วงนี้เปนสีเหลืองอย่างชัดเจนเลยคะ

ยาเหน็บไม่หาย หรือว่าต้องทานยาฆ่าเชื้อรึป่าวคะ  แล้วยาเหน็บกับยาฆ่าเชื้อแบบทานต่างกันอย่างไงคะ???

Book*****y

5 พฤศจิกายน 2555 19:33:02 #4

เพิ่มเติมนะคะ...

นอกจาก ตกขาวเปนสีเหลืองที่มีกลิ่นคาวเล็กน้อยบวกกับอาการคันบ้างเปนบางครั้ง ก้ไม่มีอาการอื่นเลยคะ

จะมีก็ตอนเปนประจำเดือน จะปวดท้องน้อยแบบหน่วงๆคะ ^^" แต่ก้ไม่รุนแรง พอทนได้ แต่มีบางครั้งที่ต้องกินแก้ปวดปวดประจำเดือนน่ะคะ 

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

6 พฤศจิกายน 2555 10:10:02 #5

ยาที่คุณ 8da81 เหน็บนั้นเป็นยาหลักในการรักษาเชื้อรา แต่ปกติแล้ว ต้องเหน็บ 1 เม็ด กลางคืนก็ได้ครับ แต่ต้องเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน โดย 1 เม็ดจะมี 100 มิลลิกรัม แต่ถ้าหากเหน็บ 2 เม็ดจะต้องเหน็บ 3 วัน ส่วนยา phoebus cream นั้น เท่าที่หมอทราบมันออกฤทธ์ิเป็น Anti-inflammatory Anti-Bacterial Anti-Fungal คือครอบครุมหลายอย่าง ไม่ทราบส่วนประกอบที่ชัดเจน แต่ที่สำคัญมีสารพวกสเตียรอยด์อาจไม่ส่งผลดีต่อผิวหนังบริเวณนี้และเชื้อราครับ ปกติหมอไม่เคยให้ตัวนี้ทาบริเวณอวัยวะเพศครับ มักจะใช้ clotrimazole cream ทาบางๆภายนอก จนอาการคันหายไปและทาต่ออีกประมาณ 1-2 สัปดาห์เพื่อฆ่าสปอร์ที่จะโตต่อเป็นราได้

ส่วนอาการปวดประจำเดือน หากปวดแล้วทำงานได้ ไม่รบกวนชีวิตประจำวัน ทานยาพอทุเลา ไม่เป็นไรครับ แต่หากปวดมากขึ้นกว่าเดิม ใช้ยาแก้ปวดมากขึ้น ทำงานไม่ได้ ก็ควรมาปรึกษาสูตินรีแพทย์นะครับ

Anonymous

6 พฤศจิกายน 2555 15:27:27 #6

ขอบคุณ คุณหมอมากนะคะสำหรับคำแนะนำ ^__^ แล้วหนูจะลองปฎิบัติดูคะ...

ขอพูดถึงยา phoebus cream หน่อยนะคะ..

คือว่า...วันที่หนูไปซื้อยาที่ร้านขายยา หนูบอกคนขายว่า ซื้อยา คาเนตเทนแบบเหน็บและแบบครีมทา แล้วเขาก้หยิบยาตัวนี้มาให้แล้วเขาก้บอกว่า คาเนตเทนเปนแค่ชื่อยี่ห้อ...แต่มีหลายตัวยา..อะไรประมาณนี้น่ะคะ  แล้วหนูก้มาอ่านดู ยาตัวนี้รักษาโรคได้กว้างมาก แม้กะทั่งน้ำกัดเท้า...แต่ก็ซื้อมาแล้วก็เลยใช่ไปก่อน เท่าที่จำได้ตั้งแต่ซื้อมาหนูใช้ไปประมาณ 3 ครั้งได้น่ะคะ หนูไม่คิดว่าเขาจะหยิบให้ผิดตัว เพราะเขาเปนเภสัชกรผู้หญิงน่าจะเข้าใจเรื่องตรงนั้นดีน่ะคะ ^^"

Anonymous

7 พฤศจิกายน 2555 11:21:47 #7

หนูเข้าใจแล้วคะ....เรื่องตัวยาโครไทรมาโซล

วันนี้หนูไปซื้อยาตามที่คุณหมอบอก แล้วหนูก้ถามเขาว่า ยาชนิดนี้มีหลายตัวยาหรอคะ เขาก้บอกว่า มากๆๆ แล้วเขาก้ให้ คาเนตเทนแบบครีมและแคนดิน๊อกซ์แบบเหน็บ 6เม็ดมาคะ แต่ครีมคาเนสเทนในข้อบ่งใช้ไม่ได้บอกว่า ใช้รักษาอาการคันอักเสบที่ปากช่องคลอดนะคะ แต่ใช้ในรายที่เปนโรคผิวหนังจำพวกกลาก เกลื้อน ที่เกิดจากเชื้อรา...ใช้ได้เหมือนกันใช่ไหมคะ  ข้องใจ เกิดความสงสัย???

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

7 พฤศจิกายน 2555 17:46:29 #8

ขอตอบคำถามเฉพาะส่วนที่เป็นด้านยานะครับ เพราะเรื่องการรักษา อาจารย์เกียรติศักดิ์ ได้แจ้งไปแล้ว

เรื่อง Phoebus cream ประกอบด้วยตัวยา 4 ตัว คือ

  1. Betamethasone สเตียรอยด์ ช่วยเรื่องอาการแดง คัน

  2. Gentamicin สำหรับเชื้อแบคทีเรีย

  3. Iodochlorhydroxyquin สำหรับ เชื้อแบคทีเรีย และ เชื้อรา

  4. tolnaftate สำหรับ เชื้อรา

 

คุณเภสัชกรที่ร้านขายยา คงไม่แน่ใจว่าติดเชื้อตัวใด จึงให้รวม ๆระหว่างเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา พร้อมกับให้ช่วยแก้คันมาด้วย มักจะได้ผลดีในระยะสั้น ๆ แต่หากใช้ระยะยาว เช่น เป็นเดือน ๆ จะไม่เหมาะสม เพราะ สเตียรอยด์มักทำให้เชื้อราเจริญได้มากขึ้น

ส่วนยาครีม Canesten นั้น ประกอบด้วยตัวยา clotrimazole (โคลไตรมาโซล) เป็นยาทาเฉพาะที่ สำหรับรักษาการติดเชื้อราเฉพาะจุด ซึ่งตัวยา จะพูดกว้าง ๆถึงการติดเชื้อราที่ผิวหนังที่พบบ่อย เช่น กลาก เกลื้อน น้ำกัดเท้า ไม่ได้ระบุว่าเป็นยาสำหรับอาการคันอักเสบที่ปากช่องคลอด ดังนั้นหากเป็นการติดเชื้อราที่ผิวหนัง ก็ใช้รักษาได้เช่นเดียวกันครับ

หากใช้ยาจนครบ 6 เม็ดแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้ไปพบแพทย์สูิติ-นรีเวชดีกว่านะครับ เพราะจากที่คุณแจ้งว่าตั้ืงแต่ปลายเดือนกันยายน จนถึง ปัจจุบันที่คุณถาม ก็เดือนกว่าแล้ว บางเชื้อ เช่นพวกพยาธิ อาจต้องรักษาแฟนไปพร้อมกันด้วยนะครับ จึงจะหายขาด เนื่องจากส่วนใหญ่ในผู้ชายมักไม่ค่อยมีอาการ อาจมีอาการแค่ปัสสาวะ แสบขัดบ้างเล็กน้อย จึงไม่ได้ทำการรักษา อาจเป็นสาเหตุทำให้คุณกลับมาเป็นซ้ำบ่อย ๆ

 

เป็นกำลังใจให้หายไว ๆนะครับ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

Anonymous

10 พฤศจิกายน 2555 17:58:53 #9

ขอบคุณมากนะคะ  ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล และ นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

สำหรับ...เกร็ดความรู้ และ คำแนะนำ หนูจะลองสังเกตอาการและปฏิบัติตามคำแนะนำดูนะคะ

แล้วยังไงจะมาปรึกษาใหม่นะคะ ^____^

Book*****y

18 พฤศจิกายน 2555 08:10:01 #10

มีเรื่องรบกวนอีกแล้วคะ...

หลังจากที่คุณหมอแนะนำ ที่ว่าให้ทายาแบบครีมต่ออีกประมาณ 2-3 สัปดาห์ หลังจากยาเหน็บหมด หนูทายาต่อ วันแรกยังไม่รู้สึกอะ แต่วันต่อมา หนูรู้สึกมีอาการ เจ็บแสบตรงปากช่องคลอดและปลายท่อปัสสวะตอนเวลาปัสสวะใกล้จะสุด ปวดแสบมาก  ออกมาจากห้องน้ำแล้วก้ยังไม่หายต้องมานั่งหนีบขาไว้สักพักจึงจะหาย บางครั้งแทบทนไม่ไหว อาการปวดแสบจะเปนในช่วงรอบแรกของวัน(ปัสสวะหลังจากตื่นนอน) รอบต่อไปก้ปวดบ้างแต่ก้ไม่เท่ารอบแรก...

ตอนแรกคิดว่าเปนท่อปัสสวะอักเสบ ก้ลองค้นหาดูในเว็บต่างๆ หนูก้ไม่ได้มีอาการมากถึงขั้นนั้น หนูแค่ ปวดแสบตอนปัสสวะเฉยๆ อย่างอื่นก็ปกติดี ปัสสวะบางครั้งก็เปนสีเหลืองทอง บางครั้งก้เหลืองจางๆเกือบจะใส แต่ก็ไม่ได้มากะปิกกะปอย....  แต่อาการปวดนี้ทำให้หนูปวดปัสสวะอยากเข้าห้องน้ำตลอด พอเข้าไปก็ออกมานิดเดียว หนูก้เลยกั้นไว้ปวดจนทนไม่ไหวค่อยเข้าห้องน้ำ ปัสสวะก้ออกมามากปกติ (หนูไม่อยากเข้าห้องน้ำบ่อยเพราะปวดแสบทุกครั้งที่ปัสสวะจะสุด)

หนูกลัวอีกโรคหนึ่ง คือโรคหนองใน... เพราะเท่าที่ศึกษามาอาการคล้ายๆกับที่หนูเป็น

คุณหมอว่าเปนไปได้ไหมคะ.....กลัวมา!!!

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

18 พฤศจิกายน 2555 15:31:44 #11

หมอคิดว่าอาการคล้ายทางเดินปัสสวะอักเสบนะครับ ส่วนอาการของหนองในนั้น ก็มีปัสสวะแสบขัดได้เช่นกัน แต่มักจะมีหนองออกมาทางท่่อปัสสวะ โดยแฟนหรือชายที่มีสัมพันธ์ด้วยมักจะมีอาการมากกว่า เร็วกว่า หญิงมักไม่ค่อยมีอาการ ดังนั้นหมอแนะนำให้มาพบแพทย์ เพื่อตรวจปัสสวะและดูลักษณะปัสสวะ รวมถึงสิ่งที่ออกมาจากท่อปัสสวะด้วยครับ ว่าเป็นอะไร จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องครับ

Anonymous

18 พฤศจิกายน 2555 17:27:34 #12

เพิ่มเติมคะ...

เมื่อเย็นหนูไปตลอดมา หนูรู้สึกว่ายิ่งเดินยิ่งปวด จนทนไม่ไหว ก้เลยไปปรึกษาเภสัชกรร้านที่ไปซื้อยาเหน็บมาและก้อธิบายอาการต่างไให้เขาฟัง แล้วเขาก้ถามว่า ปวดแสบแล้วมีเลือดออกไหม มีไข้รึป่าว เจ็บท้องน้อยไหม หนูก้บอกว่าไม่คะ รู้สึกแค่ว่าปวดแสบมากตอนปัสสาวะใกล้จะสุดเท่านั้น อย่างที่ได้บอกคุณหมอไปข้างต้น... แล้วก้ให้ยาแก้ปวดในทางปัสสาวะมา 4 เม็ด ชื่อยา phrnazopyridine (100) (เท่าที่อ่านออกคะ) เมื่อทานแล้วอาจทำให้ปัสสาวะเปลี่ยนสี เขาบอกว่าเปนตัวยาที่ช่วยบรรเทาเท่านั้น ถ้ายาหมดแล้วยังไม่หายก้ควรไปพบแพทย์คะ แต่วันนี้หนูทานไป1เม็ด อาการปวดก้เบาลงเวลาปัสสาวะก้เจ็บน้อยลง และปัสสาวะออกมาเปนสีเหลืองส้ม(เหมือนสีเบต้าดีน) 

หนูอยากทราบว่าถ้าทานยาไปแล้วอาการนี้หายดีแล้ว หนูยังควรที่จะไปพบแพทย์อยู่รึป่าวคะ??? (สงสัย)

แล้วโรคเชื้อรา... ควรทำอย่างไรเพื่อไม่ให้กลับมาเปนอีกคะ??? (สงสัยอีก)

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

19 พฤศจิกายน 2555 04:45:33 #13

หมอคิดว่าน่าจะเป็นยา Phenazopyridine ซึ่งออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวดนะครับ และมีผลทำให้ปัสสาวะเป็นสีเหลืองส้มได้ครับ ไม่ต้องตกใจ แต่จากการที่หมอบอกคล้ายกระเพาะปัสสาวะอักเสบนั้น หากเป็นจริงต้องได้รับยาปฎิชีวนะครับ ดังนั้นหากอาการยังมีอยู่ หรือ กลับมาเป็นอีก หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์ตรวจปัสสวะและอาจต้องรับยานะครับ ส่วนเชื้อรา ควรรักษาความสะอาด หลังอาบน้ำหรือหลังเข้าห้องน้ำซับให้แห้ง ไม่อับชื้น ครับ ไม่ควรสวนล้างช่องคลอด เพียงเท่านี้ก็พอครับ