กระดานสุขภาพ

เกี่ยวกับยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน และปัญหาความเสี่ยงต่อพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์
Hrmt*****k

22 พฤศจิกายน 2557 03:51:33 #1

สวัสดีครับ ขออนุญาตถามข้อสงสัยเลยนะครับ

เท้าความก่อนครับเผื่อใช้เป็นข้อวินิจฉัย ผมเคยมีเพศสัมพันธ์กับแฟนในวันที่ 7 กันยายน และเสร็จกิจในช่วง23.00 และได้ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินในช่วงเวลา 07.00 ครับ ครั้งนั้นไม่มีปัญหาใดๆ ครับ ปลอดภัยครับ

หลังจากนั้นช่วงวันที่ 17-21 ตุลาคม ก็มีเพศสัมพันธ์กันมาตลอด โดยวันแรก ใช้ถุงยางอนามัย ส่วนวันที่เหลือไม่ได้ใช้ครับ และประมาณวันที่ 20 ตุลาคาดว่าน่าจะมีประจำเดือน ก็ได้มีเพศสัมพันธ์กันและหลั่งข้างในตลอดครับ

ปัญหาที่จะเล่าต่อไปนี้ เรียนคุณหมอทราบว่าผมไม่มีการป้องกันโดยการใช้ถุงยางอนามัยเลยครับ
ทีนี้ที่ผมมีข้อสงสัยคือคู่ของผมและแฟนมีเพศสัมพันธ์กันในช่วงวันที่ 17 พฤศจิกายน ครับ โดยเสร็จกิจกันช่วงเวลาประมาณ 15.00 ครับ โดยหลั่งนอก และได้ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินในช่วงเวลาประมาณ 16.00 และทานยาอีกทีตอนตีสี่ครับ

หลังจากนั้นผมมีเพศสัมพันธ์อีกในวันต่อๆมา วันที่ 18-20 โดยทุกครั้งที่เสร็จกิจจะหลั่งข้างนอกตลอดครับ
และเว้นช่วงวันที่ 21 ไปหนึ่งวัน

พอมาวันที่ 20 หลังมีเพศสัมพันธ์ตอนบ่ายสามกว่าๆ ผมและแฟนได้ออกไปข้างนอก หลังจากนั้นกลับมาถึงห้าทุ่ม ก็มีเลือด ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นประจำเดือนหรือผลข้างเคียงจากยาหรือไม่นะครับ จนถึงวันนี้ก็ยังคงมีเลือดมาตลอด

ซึ่งทีนี้ปัญหาของผมคือมาวันที่ 22 (วันที่โพส) ผมมีเพศสัมพันธ์กับแฟนอีกครั้งช่วงเก้าโมง เสร็จกิจช่วงสิบโมง โดยทั้งที่ยังคงมีเลือดอยู่ในช่องคลอด และผมเสร็จกิจโดยหลั่งข้างในครับ


อยากทราบจากคุณหมอครับว่าพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของผม รวมถึงการใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน และจากข้อมูลที่ผมได้ให้ไว้ มีโอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์มากน้อยแค่ไหนครับ ขอบคุณครับ


อายุ: 21 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.58 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

29 พฤศจิกายน 2557 14:18:18 #2

จากประวัติทั้งหมดมีการใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินค่อนข้างบ่อยและซ้ำๆ และ การมีเพศสัมพันธ์ที่กล่าวมานั้น มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์สูงมาก ซึ่งหลังจากการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น จะคาดเดาการตกไข่ไม่ได้เลย ส่งผลให้รอบประจำเดือนไม่สม่ำเสมอและมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ครับ ซึ่งปกติแล้ว การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว หากใช้อย่างถูกต้อง ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ ซึ่งการทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์หลังการมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพประมาณ 89 - 92 % ครับ หรือหากจะเข้าใจง่ายๆ คือ ทานยานี้ 10 คน จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 9 คนครับ ดังนั้น หมอคิดว่า เลือดที่ออกมาในลักษณะที่กะปริดกะปรอยนั้น น่าจะเป็นผลจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ อย่างไรก็ตามก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยนะครับ

ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ หรือ หากสับสนว่าจะตรวจช่วงไหนดี ก็อาจตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมา หากปกติด้วยครับ และ หากประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปเกิน 2 สัปดาห์ หรือ มีเลือดออกกะปริดกะปรอยมากและนาน ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

หมอขอฝากเรื่องการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ การทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินบ่อยๆ หรือ เป็นกิจวัตรนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเนื่องจาก ผลข้างเคียงของยาแล้ว ยังมีผลทำให้การป้องกันมีประสิทธิภาพน้อยลง เลือดประจำเดือนมาไม่เป็นรอบ กะปริดกะปรอย เป็นต้นครับ ควรคุมกำเนิดด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพดีกว่านี้ เช่น ยาคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้น และก็ไม่ต้องมากังวลเรื่องตั้งครรภ์อีกด้วยครับ ด้วยความเป็นห่วง