กระดานสุขภาพ
เกี่ยวกับยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน และปัญหาความเสี่ยงต่อพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ | |
---|---|
22 พฤศจิกายน 2557 03:51:33 #1 สวัสดีครับ ขออนุญาตถามข้อสงสัยเลยนะครับ ซึ่งทีนี้ปัญหาของผมคือมาวันที่ 22 (วันที่โพส) ผมมีเพศสัมพันธ์กับแฟนอีกครั้งช่วงเก้าโมง เสร็จกิจช่วงสิบโมง โดยทั้งที่ยังคงมีเลือดอยู่ในช่องคลอด และผมเสร็จกิจโดยหลั่งข้างในครับ |
|
อายุ: 21 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.58 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
29 พฤศจิกายน 2557 14:18:18 #2 จากประวัติทั้งหมดมีการใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินค่อนข้างบ่อยและซ้ำๆ และ การมีเพศสัมพันธ์ที่กล่าวมานั้น มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์สูงมาก ซึ่งหลังจากการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น จะคาดเดาการตกไข่ไม่ได้เลย ส่งผลให้รอบประจำเดือนไม่สม่ำเสมอและมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ครับ ซึ่งปกติแล้ว การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว หากใช้อย่างถูกต้อง ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ ซึ่งการทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์หลังการมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพประมาณ 89 - 92 % ครับ หรือหากจะเข้าใจง่ายๆ คือ ทานยานี้ 10 คน จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 9 คนครับ ดังนั้น หมอคิดว่า เลือดที่ออกมาในลักษณะที่กะปริดกะปรอยนั้น น่าจะเป็นผลจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ อย่างไรก็ตามก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ หรือ หากสับสนว่าจะตรวจช่วงไหนดี ก็อาจตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมา หากปกติด้วยครับ และ หากประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปเกิน 2 สัปดาห์ หรือ มีเลือดออกกะปริดกะปรอยมากและนาน ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ หมอขอฝากเรื่องการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ การทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินบ่อยๆ หรือ เป็นกิจวัตรนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเนื่องจาก ผลข้างเคียงของยาแล้ว ยังมีผลทำให้การป้องกันมีประสิทธิภาพน้อยลง เลือดประจำเดือนมาไม่เป็นรอบ กะปริดกะปรอย เป็นต้นครับ ควรคุมกำเนิดด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพดีกว่านี้ เช่น ยาคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้น และก็ไม่ต้องมากังวลเรื่องตั้งครรภ์อีกด้วยครับ ด้วยความเป็นห่วง |
Hrmt*****k