กระดานสุขภาพ

เป็นอะไรกันแน่ค่ะ
Anonymous

18 พฤศจิกายน 2557 12:00:05 #1

ช่วงประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน ได้มีเพศสัมพันธุ์กับแฟน พอผ่านไป1วัน ตกดึกมีไข้นิดหน่อยไม่ปวดหัวค่ะ พอตื่นเช้ามา ก็ไม่มีอาการไข้เลย สักพักรู้สึกคันที่ ก้นด้านล่างถัดจากอวัยวะเพศค่ะ ก็เกา จนเป็นผื่นนูนๆ คล้ายยุงกัด หลายจุดๆ ทั้ง2 ข้างเลยค่ะ ตกเย็น มีอาการไข้ขึ้นตัวร้อนมาก กิน** ไป พักผ่อน ไประมาณ 5 ชม. ไข้ก็ลดค่ะ วันต่อมาอาการเป็นปกติ ผ่านไป 2 วันมารู้สึกตัวว่า มีตุ่ม น้ำใสๆขึ้น บริเวณที่คันก่อนหน้านั้น และบริเวณ ขาหนี ข้างขวา 2ตุ่ม เนินอวัยวะเพศอีก 2 ตุ่ม ((แต่ที่บริเวณแคมใหญ่และแคมเล็กไม่มีตุ่มขึ้นค่ะ))จำนวนข้างละประมาน 8-10 ตุ่ม ขึ้นกระจายกัน ทุกตุ่มขนาดเท่ากัน เท่ากับหัวสิวค่ะ ในระหว่างนั้น มีตกขาวร่วมด้วย แต่เป็นตกขาวสีออกเหลืองๆเขียวอ่อนๆ มีกลิ่นคาวเหม็น แต่ไม่มากเท่าไหร่ค่ะ มีอาการแสบร้อน แต่ไม่รู้สึกคันเลยค่ะ อาการแสบ แล้รวมกับที่ไม่เคยมีความผิดปกติกังวลมากจึงไปคลินิค คุณหมอบอกว่าเป็นเริมค่ะ คุณหมอบอกว่าติดจากแฟน แต่ว่า ดิฉันคบกับแฟนและมีเพศสัมพันธ์กับแฟนมาก่อนนั้น4เดือนแล้ว จากนั้นก็เว้นไป1เดือน มามีเพศสัมพันธ์ครั้งนี้แหละค่ะ รู้สึกว่าตอนร่มเพศอวัยวะเพศของดิฉันน่าจะฉีกขาดด้วย บริเวรฝีเย็บค่ะ แล้วก็มาทราบว่าเป็นเริม ดิฉันสงสัยมากค่ะ 1. ทำไมดิฉันพึ่งมีอาการทั้งที่คบกับแฟนมานานแล้ว 2. ตอนอายุ 14 เคยมีผื่นเล็กขึ้นที่หน้าและลำตัวจำนวนมากมีอาการบวมเมื่อกดจะมีของเหลวคล้ายน้ำเหลืองค่ะเมื่อผื่นหายผิวหนังที่แห้งก็ลอกเป็นแผ่นเล็กๆ เมื่อผิวหนังกลับเป็นปกติ อาการต่อมา เมื่อสัมผัสโดนผิวหนัง เช่นเกา เบาๆ ก็เป็นรอย ลากเล็บยาวๆนูนๆแดงๆค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร ก็ได้แต่กินยาแก้แพ้ตามปกติ 3. ณ ปัจจุบัน ดิฉัน มีอาการ เมื่อโดนอากาศเย็นๆ เช่นเปิดแอร์ หรืออยู่ในที่เย็นๆ จะรู้สึก ตึงๆบริเวรนั้น เมื่อเกาจะคันและรู้สึกแสบร้อนนิดๆ เป็นตุ่มนูนๆ คล้ายๆ ยุงกัด หลายๆตุ่ม ตามบริเวรที่มีอาการตึงๆค่ะ สักพักก็จะหายไปเอง 4. ดิฉันเป็นเริมแน่หรือปล่าวค่ะ ณ ตอนนี้แผลที่เป็นหายแล้วค่ะ ลักษณะแผลตอนนี้คล้ายกับพวกแผลอีสุกอีใสเลยค่ะ 5.แล้วถ้าดิฉันเป็นเริม โอกาสที่ จะเป็นอีก จะบ่อยไหมค่ะ คุณหมอที่คลีนิคบอกว่า โอกาสน้อยมาก ไปอ่านในเว็บ ก็บอกว่า ถ้าไม่อ่อนแอจิงๆ 1ปี จะเป็น ประมาณ 2-3 ครั้ง และยังพบอีกว่า ถ้าเป็นมากถึง6ครั้ง หรือมากกว่า6ครั้งต่อปี ให้ไปพบแพทย์เพื่อรับยากดเชื้อ ดิฉันสงสัยก็ได้ถามหมอที่คลินิค หมอบอกว่ากรณีนั้น จะเป็นกับพวกที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอมากๆ เช่นพวกติดเชื้อ HIV จิงไหมค่ะคุณหมอ 6. ถ้าอยากจะรู้ว่าตัวเองเป็นเริมแน่ๆ จะตรวจได้อย่างไรค่ะ ลืมบอกค่ะ ในขณะที่เป็นเริม ประจำเดือนดิฉันก็มาพอดีจากนั้น ตกขาวที่มีสีเหลือๆก็หายไป พอประจำเดือนหมด แผลเริมก็หายค่ะ แต่รุ้สึกระคายเคืองอยู่ หลังจากนั้น เริ่มมีอาการคันปากมดลูกค่ะ มีตกขาว สีขาวใสๆปกติมีกลิ่นออกเปรี้ยวนิดๆค่ะ คันบริเวร แคมใหญ่และแคมเล็กร่วมด้วยค่ะ จึงไปให้คุณหมอตรวจ ร่วมกับตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยค่ะ คุณหมอบอก อาจเป็นอาการระคายเตืองจากโรคเริม แล้วบริเวรฝีเย็บก็ยังมีแผลอยู่ หมอบอกว่า มดลูกปกติค่ะ ให้รอผลตรวจ ณ วันนี้วันที่18 พ.ย 57 มีตกขาวเรื่อยๆค่ะ อาการคันน้อยลง แต่ก็ยังคันที่แคมเล็กด้านบนติดกับตุ่มรับความรู้สึกค่ะ แล้วก็ช่วงแคมเล็กด้านล่างงติดกับปากช่างคลอด (ตกขาวบากครั้งมีลักษณะ เหมือนน้ำมูกที่หนืดเหนืยวๆเลยค่ะ มีสีเหลืองอ่อนๆ ไม่มีกลิ่นค่ะ บางครั้งก็ขาวใส บางครั้งก็ขาวใสปน ขุ่นๆ กลิ่นเปรี้ยวนิดหน่อย) ดิฉันสงสัยว่าจะเป็นเชื่อราหรือปล่าวไม่แน่ใจค่ะ อาการก็ไม่ได้คันมากมาย แต่ว่า มันจะรู้สึกหงุดหงิด เหมือนมีอะไรเดิน อยู่ดีๆก็จิ๊ด แต่ไม่เจ็บค่ะ ระคายเคือง คันนิดๆ เอามือไปแตะๆถูๆก็หาย อิกสักพักก็เป็นอีกจนรำคาญเลยค่ะ การปัสวะ ไม่เจ็บไม่แสบค่ะ รู้สึกขัดนิดหน่อย อาจเพราะมีอาการระคายเคืองจึงอาจทำให้เกร็งค่ะ
อายุ: 23 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 47 กก. ส่วนสูง: 164ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.47 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Pani*****8

19 พฤศจิกายน 2557 14:43:22 #2

วันนี้วันที่19 แผลเริมหายแล้ว แต่ตอนอาบน้ำคลำดู เจอก้อนเล็กๆ 1 ก้อน น่าจะเป็นต่อมน้ำเหลืองค่ะที่ขาหนีบ พอกด จะมีอาการปวดเจ็บนิดๆ ดิฉันจะเป็นเอดส์ไหมค่ะหมอ ดิฉันกลัวมาก หรือเป็นผลข้างเคียงจากเริม แล้วถ้าเริมกลับมาเป็นซ้ำ ต่อมน้ำเหลืองจะโตอีกไหมคะ
Haamor Admin

(Admin)

20 พฤศจิกายน 2557 06:59:57 #3

ถึง คุณ 60c43

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ 60c43 ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ 60c43 ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

21 พฤศจิกายน 2557 15:02:14 #4

เริมเป้นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งคือ herpes simplex virus เป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ อาจจะเคยเป็นมาก่อนหรือมีการรับเชื้อมาใหม่ เิกดจากการที่มีรอยถลอกหรือการฉีกขาดของผิวหนังและเชื้อจะมีการเดิินทางผ่านเข้าไปที่เซลล์ที่มีชีวิตจนทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้น ลักษณะจะคล้ายแผลร้อนใน เป็นตุ่มน้ำใส ก้นแผลสกปรก เมื่อโดนน้ำก็จะมีอาการแสบร้อน คนไข้จะมีไข้ต่ำๆ คล้ายคนติดเชื้อไวรัส หรือเป็นไข้หวัด มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว หนาวๆ ร้อนๆ ไม่สบายตัว อ่อนเพลัย ส่วนใหญ่คู่นอนจะเป็นผู้นำเชื้อมาให้ เขาอาจจะเคยเป็นมาก่อน และโรคอยู่ในระยะสงบ แต่ยังมีเชื้อในตัวเขาและถ่ายทอดมายังคู่ยนอน ในกรณีที่ภูมิต้านทานร่างกายต่ำลง ก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อมีอาการได้ง่าย แต่ถ้าร่างกายแข็งแรงด๊ก็อาจจะไม่มีอาการแต่อย่างใด ในกรณีที่เคยมีออรัลเซ็กส์ก็อาจจะมีการติดเชื้อซ้ำเติมได้ง่าย เพราะเชื้ออาจจะมีการติดมาที่บริวเณอวัยวะเพศได้ ซึ่งเดิมถ้าเ)้นที่ปากจะไม่เป็นทีอวัยวะเพศ เพราะเป็นเชื้อคนละชนิดกัน แต่ปัจจุบัน การติดเชื้อมีความรุนแรงมากขึ้น อาจจะข้ามมาติดที่บริเวณอวัยวะเพศได้ถ้าเคยเป็นที่ปากมาก่อน ซึ่งคุณอาจจะเคยมีเชื้อในตัวจึงมีอาการได้ง่ายขึ้น การวินิจฉัยโรคเริมสามารถตรวจด้วยตาเปล่าได้ หรือเอาสิ่งคัดหลั่งที่ก้นแผลไปเพาะเลี์ยงเซลล์ค่ะ ตอนนี้ถ้าคุณไม่สบายใจก็ควรมารับการตรวจภายใน เช็คมะเร็งปากมดลูก และอัลตราซาวด์ จะสามารถบอกได้ว่ามีความผิดปกติใดแน่นอนค่ะ