การทานยาคุมกำเนิดจะทำให้ประจำเดือนมาน้อยได้อยู่แล้ว แต่หากทานอยู่แล้วไม่มีประจำเดือน ผิดปกติอย่างแน่นอนครับ ซึ่งผมไม่บ่อย มักจะพบปัญหาประจำเดือนไม่มาหลังหยุดยามากกว่า หากได้ประวัติชื่อยาคุมที่ทานอาจอธิบายได้ชัดเจนมากขึ้น หมอคิดว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุ

1. จากประวัติ น้ำหนักตัวค่อนช้างมาก จะทำให้ร่างกายมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง มีจะผลทำให้เยื่อบุมดลูกหนาตัวได้มากกว่าที่ ฮอร์โมนโปรเจสโตเจน ซึ่งอยู่ในช่วงหลังของยาคุมกำเนิดจะเปลี่ยนเเยื่อบุมดลูกนั้นให้สลายตัวแล้วลอกตัวออกมาได้
   
   
2. อีกสาเหตุหนึ่ง มักจะพบในผู้ที่น้ำหนักปกติ และ ทานยาคุมกำเนิดที่มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยกว่า 30 ไมโครกรัม หรือ 0.03 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นระดับที่สามารถยับยั้งการตกไข่ได้ แต่ค่อนช้างน้อยสำหรับทำให้เยื่อบุมดลูกหนาตัวได้ตามปกติ บางคนทานแล้วอาจมีเลือดกะปริดกะปรอยในรอบแรกๆได้ และพอทานนานไป เยื่อบุจะบางมากจนไม่มีเยื่อบุที่จะให้ลอกออกมาเป็นประจำเดือนได้เลย

ดังนั้นหมอขอแนะนำ หากไม่สบายใจ หมออยากให้หยุดยาคุมกำเนิดเมื่อครบแผงนี้ก่อน แล้วสังเกตุอาการ หากประจำเดือนไม่มา ใน 2-3 รอบประจำเดือน ควรพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุอย่างที่ถูกต้อง อาจจำเป็นต้องได้เยืื่อบุมดลูกมาตรวจหาความผิดปกติ และ ให้ยาฮอร์โมนให้ประจำเดือนมาต่อไปครับ

ยาคุมที่ทานอยู่เป็นแบบ 28 เม็ด ยี่ห้อ ดิออร์ ค่ะ